Politics

แกะรอย!! ปมปลด ‘อุตตม’พ้นหัวหน้าพปชร. คิวต่อไปเก้าอี้รัฐมนตรี

พรรคพลังประชารัฐแตก – แกะรอย!! การรุมกินโต๊ะ 4 กุมาร ใช้กลไกบีบกรรมการบริหารพรรคลาออกเกินครึ่งหนึ่ง ส่งผลหัวหน้า-เลขาธิการ-กรรมการบริหาร พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ คิวต่อไปดัน “ประวิตร” นั่งหัวหน้าพรรค “อนุชา” เสียบเลขาธิการพรรค

ปมแตกหัก! ภายใน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กลายเป็นเรื่องใหญ่โตในทางการเมืองขณะนี้ โดยเฉพาะการแตกหักภายในกับพรรคแกนนำรัฐบาล ที่อาจจะทำให้ใครต่อใครนึกหัวเราะขึ้นมา เพราะปกติปัญหาแตกหักลักษณะนี้ ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นในพรรคเดียวกันสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า ที่อาจจะไม่สามารถตกผลึกร่วมกันในบางเรื่อง แต่คราวนี้กลับกลายมาเป็นปมปัญหาพรรคเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจยิ่ง ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่มี กลุ่มก๊วน มากที่สุดในบรรดาพรรคการเมือง

เปิดไทม์ไลน์ เกมลึกพรรคพลังประชารัฐก่อนปลด “อุตตม”

การเคลื่อนไหวภายในพรรคเกิดขึ้นเป็นระลอกๆ แต่เริ่มมารุนแรงขึ้นช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กับเกมแย่งชิงการบริหารพรรค ด้วยการกดดันให้เปลี่ยน คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ต้องการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค ขึ้นมาเป็น หัวหน้าพรรค แทน นายอุตตม สาวนายน

พรรคพลังประชารัฐแตก

23 เมษายน 2563 เกมกดดันเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเกิดขึ้นชัดเจน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจเปิดสถานที่ทำการพรรคใหม่ อาคารเลขที่ 547 ถนนรัชดาภิเษก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปิดห้องคุยสองต่อสองกับ นายอุตตม สาวนายน วันนั้นน่าจะเป็นการเดินเกมแบบ เต็มสูบ ที่จะเปลี่ยนหัวหน้าพรรค จนมีการพูดกันถึงขั้นว่า นายอุตตม สาวนายน ถูกจี้ให้ลาออก

จากนั้นเพียง 1-2 วัน เกมการเมืองภายในพรรคยังเดินต่อ จนมีแกนนำส.ส.ในพรรคโดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นกรรมการบริหารพรรค เลือกใช้วิธี ยื่นลาออกจากกรรมการบริหารพรรค จนสามารถรวบรวมชื่อกรรมการบริหารพรรคที่ลาออกได้เกินกว่าครึ่ง รายชื่อนี้ถูกเก็บไว้ใน “ตู้เซฟ” นานพอสมควร รายชื่อที่ยื่นลาออกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่สนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคทั้ง กลุ่มสามมิตร กลุ่มผู้กองธรรมนัส และ กลุ่มส.ส.กทม.

แรงกดดันเปลี่ยนหัวหน้าและเลขาธิการพรรค มาประจวบตรงที่การโหวตลงคะแนนพ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ เสร็จสิ้นลง ขณะที่ยังไม่ได้โหวตก็เริ่มมีการประลองกำลังเกิดขึ้นระหว่างทางแต่ละกลุ่มอ้างจำนวนส.ส.ในสังกัดกันให้วุ่นวาย มีคนจำนวนไม่มากนักรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังเสร็จสิ้นการพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับในสภาฯ เรื่องนี้ต้องบอกเลยว่ามีการเตรียมการมาอย่างดีในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

พรรคพลังประชารัฐต้องจัดการเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ภายใน 45 วัน

1 มิถุนายน 2563 ปฎิบัติการจึงเกิดขึ้นเมื่อ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ถูกมอบหมายให้ประชุมผู้เกี่ยวข้อง ตรวจเช็คความถูกต้อง และกฎข้อบังคับพรรคเกี่ยวกับรายชื่อกรรมการบริหารพรรคที่ลาออก รวมไปถึงสถานภาพของกรรมการชุดเดิม ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะลงเอยเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ถูกจัดวางให้เป็นผู้แถลงข่าว ‘การลาออกของกรรมการบริหารพรรคลาออกจำนวน 18 คน  มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563′ เป็นต้นไป เป็นเหตุให้จำนวนกรรมการบริหารพรรคว่างลงเกินกึ่งหนึ่ง ของกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐทั้งหมด มีผลทำให้กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ข้อที่ 15 (3) และตามข้อบังคับพรรค ข้อที่ 15 วรรคสาม และให้เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองชุดใหม่ ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ

พรรคพลังประชารัฐแตก

เกิดข้อสงสัยทำไมกรรมการบริหารพรรคยื่นลาออกแค่ 18 คน เพราะรู้มาว่ามีการยื่นลาออกมากกว่านี้  แต่รายชื่อที่เหลืออยู่ไหน เพราะกรรมการบริหารพรรคมีถึง 34 คน เข้าใจได้ว่าฝั่งที่ยังสนับสนุน นายอุตตม สาวนายน อาจจะยังไม่ยื่นลาออกแต่มีจำนวนไม่มาก แต่ที่สงสัยหนักทำไมถึงปล่อยชื่อ กลุ่มผู้กองธรรมนัส ออกมาหมดหน้าตัก ปรากฎการณ์อย่างนี้จะไปบอกกับกลุ่ม 4 กุมารได้อย่างไรว่า ยังสนับสนุนอยู่ เพราะตลอดเวลาที่แบ่งขั้ว แบ่งก๊วน กลุ่มผู้กองธรรมนัส  ก็ยืนเคียงข้างฝั่ง 4 กุมารมาตลอด หรือว่าเกมนี้ สกัดนักวิ่งหรือพวกเหยียบเรือสองแคม บอกเลยเกมนี้ล้ำลึกจนเหลือเชื่อ

ที่น่าสนใจไปกว่านี้เมื่อนำเอารายชื่อกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดมาไล่เรียง พบว่ายังมีรายชื่อที่เชื่อว่ามีการเซ็นลาออกแล้ว แต่ไม่ถูกปรากฎออกมาในวันแถลงข่าวฝั่งสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ น่าจะมีอยู่อีกอย่างน้อย 7 คน ส่วนฝั่งที่สนับสนุน        นายอุตตม สาวนายน น่าจะอยู่ที่ 8 คน ยังมีตัวแปรอีก 1 คนที่ยังไม่เลือกข้าง แต่เมื่อไหร่ที่เกมยังไม่จบ รายชื่อที่ถูกปกปิดไว้ จะกลายเป็นพลังต่อรองทางกฎหมายของฝั่งสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

พรรคพลังประชารัฐแตก

พรรคพลังประชารัฐแตก ได้เวลาเปลี่ยนหัวหน้า-เลขาฯพรรคขยับชั้น-ปรับคณะรัฐมนตรี

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่าการเมืองภายในพรรคจะยังไม่จบลง เพราะภายใน 45 วันนี้ รักษาการหัวหน้าพรรคต้องเรียกประชุมพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนั้นจากนี้ไปจะต้องดูว่าจะมีการเรียกประชุมเมื่อไหร่ สิ่งสำคัญพรรคจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรคคนใหม่รวมทั้งเลขาธิการพรรคด้วย สำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นที่แน่นอนแล้วว่า จะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่วนเลขาธิการพรรคผู้ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดเวลานี้คือ นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ส่วนกรรมการบริหารพรรคต้องมีการเลือกกันใหม่แต่น่าจะมีคนเดิมเข้ามาจำนวนหนึ่ง

ในส่วนของการปรับคณะรัฐมนตรี น่าจะเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งน่าจะไม่เกินสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ การปรับครม.รอบนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในส่วนของทีมเศรษฐกิจแน่นอน เกมนี้แม้แต่ฝั่ง 4 กุมารเองก็รู้ดีว่าเมื่อถูกขจัดพ้นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคได้เมื่อไหร่ ไพ่ใหญ่ที่วางไว้นั่นคือการปรับพ้นจากเก้าอี้รัฐมนตรีที่กลุ่ม 4 กุมารครอบครองอยู่ ส่วนใครจะอยู่ตรงไหนนั่งที่ไหนอย่างไรตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาบอกเล่ากัน อดใจรอก็แล้วกัน!!

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight