World News

หวั่นสูญเงิน!! นักลงทุนจีนแห่ประท้วงแพลตฟอร์มปล่อยกู้ออนไลน์

นักลงทุนใน “พีพีเมี่ยว” แพลตฟอร์มธุรกรรมทางการเงินระหว่างบุคคลผ่านระบบออนไลน์ และไม่มีคนกลาง ( peer to peer lending – P2P lending )ราว 300 คน รวมตัวประท้วง หวั่นสูญเงินลงทุน หลังบริษัทประกาศยุติกิจการช่วงต้นเดือนสิงหาคม สะท้อนถึงปัญหาที่อุตสาหกรรมการเงินออนไลน์กำลังเผชิญอยู่

reu

นักลงทุนเหล่านี้มารวมตัวกันบริเวณล็อบบี้ของอาคารศูนย์การค้าอินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ เซ็นเตอร์ (ไอเอฟซี) ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานฮัวอัน ฟิวเจอร์ แอสเซท ที่จดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นในหั่งโจว ฟูเชี่ยน เน็ตเวิร์ค เทคโนโลยี อดีตผู้ดำเนินงานพีพีเมี่ยว

การรวมตัวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา พีพีเมี่ยวโพสต์แถลงการณ์บนเว็บไซต์ว่า ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ เพราะนักลงทุนพากันถอนเงินลงทุนออก และบางบริษัทที่ทางพีพีเมี่ยวปล่อยเงินกู้ให้ ก็หยุดชำระเงิน

แม้บริษัทระบุว่า จะคืนเงินทุนให้กับนักลงทุนภายในเวลา 36 เดือน แต่นักลงทุนก็ตัดสินใจมาชุมนุมกันที่ไอเอฟซี เพราะกังวลว่า อาจจะไม่ได้เงินคืน โดยข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า พีพีเมี่ยว มีเงินทุนทั้งหมด 4,900 ล้านหยวน และมีผู้ใช้งานราว 360,000 คน

ไค ตันตัน พนักงานโรงแรมวัย 28 ปี หนึ่งในผู้ที่มาร่วมประท้วง เปิดเผยว่า เธอเดินทางจากเมืองหังโจว มายังนครเซี่ยงไฮ้ เพราะหวังที่จะติดต่อกับฮัวอันเกี่ยวกับเงินที่เธอลงทุนในพีพีเมี่ยวไปราว 450,000 หยวน

ทางด้านฮัวอัน ที่มีผู้ถือหุ้นรวมถึงบริษัทของรัฐบาลอย่างเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริค กรุ๊ป และเซี่ยงไฮ้ ทรัสต์ แถลงในวันนี้ (20 ส.ค.)ว่า การที่บริษัทจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นในหังโจว ฟูเชี่ยนนั้น เป็นการกระทำในนามของลูกค้าเท่านั้น และไม่เคยทำกำไรจากแพลตฟอร์มนี้

ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม P2P lending เป็นการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการปล่อยกู้ ด้วยการระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อย เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับบริษัทขนาดเล็ก และบุคคลทั่วไป โดยให้คำมั่นถึงการได้รับผลตอบแทนสูง

ธุรกิจประเภทนี้รุ่งเรืองอย่างมากในจีนตั้งแต่ปี 2554 และขึ้นถึงจุดสูงสุดเมื่อปี 2558 ที่มีบริษัททำธุรกิจแบบนี้มากถึง 3,500 แห่ง

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีบริษัท P2P lending ในจีน อย่างน้อย 243 รายที่ปิดกิจการลง จุดชนวนให้เกิดการถอนเงินลงทุนออกจากหลายบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ และเกิดการประท้วงของนักลงทุนทั่วประเทศ จีน

ที่มา: REUTERS

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight