เหตุแผ่นดินไหว และอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) บริเวณเกาะลอมบอก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย ทั้งยังทำให้เกิดกระแสตื่นตระหนกรอบใหม่
ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวบนเกาะลอมบอก เมื่อวานนี้ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในเวลาก่อนเที่ยงเล็กน้อย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ขนาด 6.3 ซึ่งทำให้เกิดดินถล่ม และผู้คนพากันแตกตื่นหาที่ปลอดภัย
หลังจากนั้นเกือบ 12 ชั่วโมง ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ขนาด 6.9 และมีอาฟเตอร์ช็อกขนาดใหญ่อีก 5 ครั้ง
เหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกาะท่องเที่ยวชื่อดังของอินโดนีเซียแห่งนี้ อยู่ระหว่างการฟื้นฟูความเสียหาย จากเหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม และ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 500 ราย และผู้คนอีกหลายหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย
นายอากุง ปรามูจา โฆษกสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยท้องถิ่น เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วงดึกวานนี้ โดย 2 รายอยู่ทางตะวันออกของเกาะลอมบอก และอีก 2 ราย บนเกาะซัมบาวา ที่อยู่ติดกัน
เจ้าหน้าที่ยังได้ดำเนินการอพยผู้ป่วยจำนวนหนึ่งออกจากโรงพยาบาลในซัมบาวา จากความวิตกว่า อาคารอาจจะได้รับความเสียหายรุนแรง
ภัยธรรมชาติครั้งล่าสุดนี้ ยังทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะลอมบอก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ถนนสายต่างๆ ได้รับความเสียหาย ขณะที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะซัมบาวา เกิดไฟไหม้ขนาดใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงเหตุดินถล่มในอุทยานแห่งชาติภูเขารินจานี ที่เคยมีนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนติดค้างอยู่ช่วงสั้นๆ ช่วงเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งแรกสุดในปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งทางอุทยานได้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปนับตั้งแต่นั้น
นายปรามูจา ระบุว่า เหตุดินถล่มดังกล่าว ทำให้บ้านหลายหลัง และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ในเขตเซมบาลัน ที่อยู่บริเวณเชิงเขารินจานี พังลงมา หลังจากที่เคยได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว 2 ครั้งก่อนมาแล้ว
