COVID-19

รายงานตัวแล้ว 69 คน! 152 ผู้โดยสารหนีสนามบิน อ้างรอนานไม่มีความชัดเจน

วันนี้ (4 เม.ย.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดลงทะเบียนรายงานตัว บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 9  ที่จ้ดขึ้นเพื่อรองรับการมารายงานตัวของผู้โดยสารที่หลบหนีออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อคืนวานนี้ (3 เม.ย.) เริ่มมีผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และหลบเลี่ยงการกักกัน  ทยอยเดินทางมารายงานตัวแล้ว โดยบอกว่า ไม่ได้หลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ไม่ชัดเจนปล่อยให้รอนาน

91398354 883524638788171 6153014059995234304 n
แฟ้มภาพ

นับถึงเมื่อเวลา 16.00 น.  มีผู้ที่อยู่ในกลุ่มคนไทย 152 คนที่กลับจากต่างประเทศ มารายงานตัวที่ศูนย์ EOC สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว 61 คน ส่วนที่ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ มารายงานแล้ว 8 คน โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ขีดเส้นตายให้รายงานตัวภายในเวลา 18.00 น. ไม่เช่นนั้นมีความผิดตามกฎหมาย

ตามขั้นตอนที่วางไว้ เมื่อมาลงทะเบียนเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลหนังสือเดินทาง พาสปอร์ต ซักถามประวัติการเดินทาง ก่อนที่จะพานั่งรถไปยังโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักกันตัว 14 วัน

กลุ่ม 152 คนไทยที่หลบหนีจากการถูกกักตัวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

  1. กลุ่มคนไทย 158 คน เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ ชลบุรี  นนทบุรี ตำรวจรับทราบข้อมูลแล้ว  ขอให้ติดตามมาโดยด่วน
  2. กลุ่มที่อยู่ต่างจังหวัด ให้ติดต่อไปยังศูนย์ดำรงธรรมในจังหวัด

Escape 01

จังหวัดที่ 152 คนไทย หลบหนีการกักตัว มีดังนี้

  • กรุงเทพมหานคร 44 ราย
  • นนทบุรี 10 ราย
  • ชลบุรี 8 ราย
  • ปทุมธานี 7 ราย
  • อุบลราชธานี 5 ราย
  • สมุทรปราการ ขอนแก่น ระยอง ร้อยเอ็ด เชียงใหม่ ราชบุรี สงขลา จังหวัดละ 4 ราย
  • มหาสารคาม เชียงราย นครปฐม นครราชสีมา นครสวรรค์ บุรีรัมย์ จังหวัดละ 3 ราย
  • ยโสธร สมุทรสาคร ปราจีนบุรี จังหวัดละ 2 ราย เป็นต้น

ทั้งนี้ สามารถรายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน สนามบินสุวรรณภูมิ หรือติดต่อหมายเลข 02-132-9950 และ 063-234-4734 ได้ทันที ก่อนเวลา 18.00 น. หากฝ่าฝืน จะถูกดำเนินการทางกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ  ซึ่งมาตรา 18 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

91473009 1614765978679704 6048739534017921024 o
ธัชกร หัตถาธยากูร

ทางด้านนายธัชกร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์, พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และนายแพทย์พิเชษฐ์ พืดขุนทด ผู้แทนจากสาธารณสุขจังหวัด ร่วมกันแถลงข่าว ที่บริเวณศูนย์กักกันผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ โควิด 19 เรื่อง การดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืน ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในการกักกันตัว ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายเอ (นามสมมติ) พร้อมภรรยา และญาติ ซึ่งเดินทางไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วยรวม 3 คน มายังศูนย์กักกันผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ โควิด 19 ภายในสนามแข่งรถของเอกชน เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงระบาด

จากข้อมูลการตรวจสอบพบว่า คนไทยที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่หนีการกักตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิในครั้งนี้ จำนวน 3 คน เป็นชาวอำเภอละหานทราย ซึ่งจับตัวได้แล้ว ส่วนอีก 2 คน คือ เป็นชายชาว อำเภอกระสัง และชายชาว อำเภอโนนสุวรรณ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ย้ำว่า จะต้องติดตามตัวมาเข้าสู่กระบวนการกักตัวให้ครบทั้ง 3 คน

Avatar photo