สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของคนไทยครับ
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่ จังหวัดนครราชสีมา สามารถบอกอะไรเราได้หลายๆ อย่าง ซึ่งผมเชื่อว่าเราคงได้ฟังการถอดบทเรียนจากนักวิชาการและหลายหน่วยงานที่เชี่ยวชาญ
ในมุมมองของผม งานนี้ เราได้เห็นปรากฎการณ์ของการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ที่ให้ทั้งคุณ และโทษในช่วงเวลาวิกฤติ
โทรศัพท์มือถือ คือเครื่องมือสื่อสารอันทรงพลัง ยิ่งเทคโนโลยีไปไกลเท่าไหร่ ความทรงพลังยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ผมขอชื่นชมกองปราบปรามฯ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถจากใจจริง
นอกจากการทำงานของตำรวจแล้ว การทำงานของสื่อก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ ในยุคที่ทุกๆคนสามารถเป็น สื่อได้ “สื่อมวลชนอาชีพ” ต้องแสดงความเป็น “มืออาชีพ” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี
โทรศัพท์มือถือยุคนี้ ใครๆ ก็สามารถ “ไลฟ์สด” เพื่อรายงานสถานการณ์รอบตัว แต่จริยธรรมในการสื่อสารยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการรายงานเหตุการณ์ในช่วงที่คาบเกี่ยวกับความเป็น และความตาย
การใช้โซเชียลมีเดียจึงเป็นเสมือนดาบสองคม เพราะการใช้โซเชียลมีเดียสื่อสารกันในช่วงวิกฤติที่การโทรศัพท์หากันเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตนั้น นอกจากคนภายนอกจะเห็นแล้ว คนร้ายก็อาจเห็น และทราบความเคลื่อนไหวในขณะนั้น ซึ่งอาจเกิดผลเสียต่อผู้บริสุทธิ์
การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับคนในสังคมว่าอะไรควร อะไรไม่ควร เกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ และการสื่อสารในช่วงวิกฤตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง นอกเหนือไปจากการอัพเดทตัวเองให้ทันกับเทคโนโลยีต่างๆ บนมือถือ
อย่างไรก็ตาม ความอึดของแบตเตอรี่โทรศัพท์ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากแบตฯ หมดในช่วงคับขัน มันก็คือการตัดโอกาสในการสื่อสารกับโลกภายนอกออกไปนั่นเอง
ขอแสดงความเสียใจต่อทุกความสูญเสีย และขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต และการฟื้นความเชื่อมั่นด้านต่างๆ ของชาวโคราชและสังคมไทยครับ
ใช้สติ ก่อนใช้เทคโนโลยีกันนะครับ
ดร. ไชยพงศ์ อัครกิตติ์จินดา
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดโฟน จำกัด