World News

‘ทรัมป์’ ขู่ ‘อิหร่าน’ ถ้าแก้แค้นเจอถล่ม 52 จุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เตือนสหรัฐกำหนดเป้าหมายในอิหร่านไว้ 52 จุด ซึ่งล้วนแต่เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างมากต่ออิหร่าน และต่อวัฒนธรรมอิหร่าน โดยจะโจมตีอย่าง “รวดเร็ว และรุนแรงมาก” หากรัฐบาลเตหะรานลงมือต่อชาวอเมริกัน หรือสินทรัพย์ของสหรัฐ

truu

ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าว พร้อมระบุว่า อิหร่านพูดอย่างชัดเจน ถึงการโจมตีสินทรัพย์อเมริกัน เพื่อแก้แค้นต่อการที่สหรัฐกำจัดผู้นำก่อการร้ายโลก ที่เพิ่งฆ่า และทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ นอกเหนือจากคนอื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่เขาสังหารมาตลอดทั้งชีวิตของเขา และว่า อิหร่านสร้างแต่ปัญหามานานหลายปีแล้ว ซึ่งสหรัฐไม่ต้องการที่จะมีภัยคุกคามอีกต่อไป

การทวีตข้อความดังกล่าวเกิดขึ้น หลังเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.) ทำเนียบขาวได้แจ้งต่อสภาคองเกรสอย่างเป็นทางการ ถึงปฏิบัติการทางทหาร ที่สังหารพล.อ.คาเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยคุดส์ ของอิหร่านเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การที่ทรัมป์ออกมาขู่ถึงการโจมตีสถานที่ทางวัฒนธรรมของอิหร่านนั้น มีแนวโน้มที่จะทำให้ชาวอิหร่านเกิดความรู้สึกเป็นปรปักษ์กับสหรัฐมากขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะสนับสนุนรัฐบาลของตัวเองหรือไม่ก็ตาม ทั้งยังเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก ที่สหรัฐจะกำหนดเป้าหมายโจมตีต่อสถานที่เหล่านี้ แทนที่จะเป็นที่มั่นทางทหาร ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า การกระทำดังกล่าวอาจละเมิดกฎหมายสากล

colin

“ผมว่าเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก ที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ จะจัดหาเป้าหมายทางเลือกในการโจมตี ที่รวมถึงสถานที่ทางวัฒนธรรมต่างๆ ให้กับทรัมป์ด้วย ทรัมป์อาจจะไม่สนใจเกี่ยวกับกฎการทำสงคราม แต่นักวางแผนของเพนตากอน และนักกฎหมายให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และการโจมตีสถานที่ทางวัฒนธรรม คือ การก่ออาชญากรรมสงคราม” นายโคลิน คาห์ล อดีตรองผู้ช่วยของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทวีต

ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐว่า กองทัพ และสำนักงานด้านข่าวกรองต่างๆ ของสหรัฐ มีการหารือภายในอย่างเข้มข้น เพื่อประเมินถึงความเป็นไปได้ต่อวิธีการที่อิหร่านเตรียมที่จะนำมาตอบโต้สหรัฐ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หรืออาจจะรอไประยะเวลาหนึ่ง

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ ก็ได้ออกคำเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตีจากอิหร่าน รวมถึง การโจมตีทางไซเบอร์ด้วย

Avatar photo