ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้ธนาคารโลก ยุติการปล่อยกู้ให้กับจีน หลังจากที่สถาบันการเงินข้ามชาติรายนี้ ยอมรับแผนการกู้เงินของรัฐบาลปักกิ่ง แม้จะโดนรัฐบาลอเมริกันคัดค้านก็ตาม
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5 ธ.ค.) ธนาคารโลกยอมรับแผนการให้ความช่วยเหลือจีน ด้วยการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจำนวน 1,000 – 1,500 ล้านดอลลาร์ต่อปี ไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2568 โดยระบุว่า เป็นการปรับลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการปล่อยกู้ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ตกเฉลี่ยปีละ 1,800 ล้านดอลลาร์
“ทำไมธนาคารโลกต้องปล่อยกู้ให้จีน เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไร จีนมีเงินอยู่ตั้งมากมาย และถ้าธนาคารโลกไม่ปล่อยกู้ให้ จีนก็หาเงินมาได้ หยุดได้แล้ว” ทรัมป์ทวีต
ขณะที่ธนาคารโลกแถลงว่า ยอดเงินปล่อยกู้ให้จีนลดลงอย่างมาก และจะลดลงไปอย่างต่อเนื่อง ตามข้อตกลงของทางธนาคารกับผู้ถือหุ้นทุกราย รวมถึง สหรัฐ พร้อมย้ำว่า ธนาคารลดจำนวนการปล่อยกู้หากประเทศนั้นๆ มีฐานะร่ำรวยมากขึ้น
ในปีงบประมาณ 2562 ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารโลกปล่อยกู้ให้จีนจำนวน 1,300 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากที่เคยปล่อยกู้ให้ประมาณ 2,400 ล้านดอลลาร์เมื่อปีงบประมาณ 2560
อย่างไรก็ดี ตัวเลขที่ลดลงมาอย่างมากนี้ ยังไม่เพียงพอสำหรับรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ที่แย้งว่า จีนมีความมั่งคั่งมากเกินกว่าที่จะรับความช่วยเหลือจากนานาชาติแล้ว