หุ้น WORK หรือ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เคยมีช่วงเวลาที่สดใสมากๆ จากกระแสตอบรับที่ดีของรายการชื่อดัง The Mask Singer และผลประกอบการตลอดปี 2560 ที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่อง
หากจำกันได้หุ้น WORK เคยขึ้นไปสูง 105 บาทต่อหุ้น ในเดือนกรกฏาคม 2560 คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดถึง 46,000 ล้านบาท เรียกว่าเป็นจุดสูงสุดตลอดกาลของบริษัท (All Time High)
โดยในปีนั้นปีเดียวบริษัททำรายได้ไปทั้งสิ้น 3,877 ล้านบาท เติบโต 44.34% และโกยกำไรไปมากถึง 904 ล้านบาท เติบโต 355.16% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะมาก เมื่อเทียบกับกิจการอื่นๆ ในวงการสื่อที่กำลังเจอกับวิกฤติในตอนนั้น
อย่างไรก็ดี จุดพลิกผันของ WORK มาถึงไวกว่าที่คิด เพราะเพียงหนึ่งปีถัดมา หลายอย่างกลับเริ่มไม่ค่อยดีแบบเดิม แม้ภาพรวมรายได้จะยังคงเติบโตอยู่ แต่ในแง่ของกำไรกลับแผ่วลงเรื่อยๆ จนกระทั่งไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 WORK พลิกกลายเป็นขาดทุน 77 ล้านบาท เป็นเหตุให้ราคาหุ้นในช่วงนั้นร่วงลงไปเหลือ 23 บาทเท่านั้น หรือมูลค่าหายไปกว่า 70% ภายในพริบตา
สาเหตุของการขาดทุนครั้งนั้น WORK ชี้แจงว่าเกิดจาก 2 ปัจจัย คือ
1. รายได้จากการขายโฆษณาของช่องเวิร์คพอยท์ ลดลงหนักถึง 510 ล้านบาท จากการแข่งขันของธุรกิจ TV และรายการต่างๆ ของช่องที่ไม่ได้รับความนิยมเช่นเดิม
2. ต้นทุนผลิตเพิ่มขึ้น 28% จากปี 2560 ต้นทุนผลิตเท่ากับ 1,741 ล้านบาท กลายเป็น 2,231 ล้านบาทในปี 2561 ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการถ่ายทอดสดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์, การจัดคอนเสริต์และละครเวที รวมถึงการขยายธุรกิจขายสินค้าเครื่องสำอางค์แบรนด์ “Let Me In Beauty”
“มูลค่าบริษัทหายไป 3 หมื่นล้าน”
ปัจจุบัน ณ เดือนพฤศจิกายน 2562 หุ้น WORK ต่ำกว่าระดับ 15 บาทแล้ว หมายความว่าหากนับจากจุดสูงสุดเมื่อกลางปี 2560 วันนี้มูลค่ากิจการของ WORK หายไปกว่า 3 หมื่นล้านบาท ภายในระยะเวลาแค่ปีครึ่ง
กราฟแสดงผลตอบแทนหุ้น WORK เทียบกับดัชนี SET Index ในรอบปี 2562
ขณะเดียวกัน จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าตั้งแต่ต้นปีหุ้น WORK ให้ผลตอบแทนติดลบ 47.88% ต่ำกว่า SET Index ที่ผลตอบแทนติดลบ 1.65% ซึ่งเป็นหนึ่งเครื่องมือชี้วัดได้ดีเลยว่า ธุรกิจในตอนนี้กำลังเจอปัญหาอะไรบางอย่างหนัก
เรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คงหนีไม่พ้นภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อทีวีที่ยังมีแต่ทรงกับทรุด ทั้งการแข่งขันอันร้อนแรง และเม็ดเงินโฆษณาก็ยังไม่กลับมาเหมือนช่วงเฟื่องฟู เพราะแม้ WORK จะกลับมาสร้างเรทติ้ได้ดีอีกครั้งในปีนี้ จากรายการดังๆ อาทิ 10 FIGHT 10 แต่กำไรสุทธิกลับหดตัว
ราคาหุ้นลงแรง เป็นโอกาสเข้าซื้อ จริงไหม ?
เรื่องนี้มีคนพูดถึงกันมากว่าการที่หุ้น WORK ลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสดีในการเข้าเก็บหรือเปล่า กรณีนี้อยากให้มองอย่างรอบคอบ เพราะเมื่อดูที่ P/E ของหุ้นที่ค่อนข้างสูงถึง 57 เท่า แสดงว่าหุ้นที่เหมือนถูก เอาเข้าจริงแล้วอาจไม่ได้ถูกจริงๆ ก็ได้
ขณะเดียวกันคำถามสำคัญ คือ คุณกล้าเสี่ยงไหมที่จะลงทุนในธุรกิจตะวันตกดิน เพราะต้องพูดตามตรงว่าโอกาสที่ WORK จะสร้างปฏิหารย์ได้อย่างที่เคยทำกับ The Mask Singer จนราคาหุ้นพุ่งกระฉูดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานบริษัทจากความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นดังกล่าว การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนการตัดสินใจลงทุน
