World News

หุ้นเอเชียร่วงตามวอลล์สตรีท เจอทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบล่าสุด

ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (20 พ.ย.) ปรับตัวลดลง ตามการเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีท และเกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ยังไม่แสดงความคืบหน้าออกมา มีแต่การส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาที่ล้นเกิน กลายเป็นแรงกดดันให้ราคาน้ำมันร่วงหนักสุดในรอบ 7 สัปดาห์

000 1F14F4 1

ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 23,094.65 จุด ลดลง 198.00 จุด หรือ 0.85% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง อยู่ที่ 26,853.02 จุด ขยับลงมา 240.78 จุด หรือ 0.89% ดัชนีคอมโพสิต เซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 2,925.05 จุด ปรับลง 8.94 จุด หรือ 0.30% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 3,223.54 จุด ลดลง 15.33 จุด หรือ 0.47%

ทางด้าน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) ที่ 27,934.02 จุด ลดลง 102.20 จุด หรือ 0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,120.18 จุด ลดลง 1.85 จุด หรือ 0.06% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,570.66 จุด เพิ่มขึ้น 20.72 จุด หรือ 0.24%

การเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นลดน้อยลงอย่างมาก ท่ามกลางความไม่แน่ใจที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการทำข้อตกลง เพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาขู่รอบล่าสุด ที่จะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกครั้ง หากจีนไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงที่เขาชอบ

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ในตลาดเอเชียเช้าวันนี้อยู่ที่ 60.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเมื่อคืนนี้ ร่วงลงไปถึง 2.6% ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ อยู่ที่ 55.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขยับขึ้นเเพียงเซนต์เดียวจากราคาปิดที่ตลาดโภคภัณฑ์นิวยอร์ก (ไนเม็กซ์) ของสหรัฐที่ร่วงลงไปถึง 3.2%

การดิ่งลงของราคาน้ำมันเกิดขึ้น หลังข้อมูลจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกันแสดงให้เห็นว่า สหรัฐมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ทั้งยังมีรายงานว่า รัสเซียไม่มีแนวโน้มที่จะลดเพดานการผลิตลงมาอีก ในการประชุมร่วมกับกลุ่มโอเปคต้นเดือนธันวาคมนี้

ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในตลาด หนุนให้เกิดการเข้าลงทุนในทองคำ ดันให้ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย เคลื่อนไหวล่าสุดที่ระดับ 1,474.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Avatar photo