รัฐบาลเวียดนาม ระบุ ผู้ผลิต และผู้ส่งออกข้าวเวียดนาม จำเป็นต้องมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพ และการจัดหาสินค้าซึ่งเป็นที่ต้องการ แทนที่จะมุ่งเน้นในเรื่องปริมาณ
นายเหวียน ซวน ควง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และการพัฒนาเวียดนาม กล่าวในงานสัมมนาเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปริมาณ และมูลค่าการส่งออกข้าวของเวียดนาม ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ พุ่งแตะระดับ 5.56 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าราว 2,430 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.1% ในแง่ของปริมาณการส่งออก แต่กลับมามูลค่าลดลง 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ข้าว 5% ของเวียดนาม มีราคาจำหน่ายล่าสุดอยู่ที่ 350 ดอลลาร์ต่อตัน แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน แต่ยังต่ำกว่าราคาข้าวประเภทเดียวกันของอินเดีย ซึ่งมีราคาอยู่ราว 365-370 ดอลลาร์ต่อตัน และของไทยที่ 395-400 ดอลลาร์ต่อตัน
ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามยังมีปริมาณการส่งออกข้าวไปยังจีน ลดลงถึง 67% ที่ 400,000 ตัน ทั้งที่ในอดีตที่ผ่านมา จีนมักนำเข้าข้าวเวียดนามมากสุดถึง 2 ล้านตันต่อปี
ตัวเลขการส่งออกดังกล่าว ยังทำให้จีนหลุดจากตำแหน่งตลาดส่งออกข้าวเบอร์ 1 ของเวียดนาม ด้วยปริมาณการส่งออกที่คิดเป็นสัดส่วนเพียง 8% ของมูลค่ารวมการส่งออกข้าวทั้งหมด ตรงข้ามกับกัมพูชา ผู้ส่งออกข้าวรายสำคัญอีกรายหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีปริมาณการส่งออกข้าวไปยังจีนเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจากสหพันธ์ข้าวกัมพูชา แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชามีปริมาณการส่งออกข้าวไปยังจีนพุ่งขึ้นอย่างมาก ใกล้ถึงระดับ 158,000 ตัน เพิ่มขึ้น 44% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้
ในปีนี้ กัมพูชามีแผนที่จะส่งออกข้าวไปยังจีนทั้งหมด 300,000 ตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 400,000 ตันในปีหน้า โดยกัมพูชามุ่งให้ความสำคัญหับการผลิตข้าวออร์แกนิค ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการในตลาด และรับประกันถึงการขยายตัวด้านการส่งออกอย่างยั่งยืน
แม้กัมพูชาจะมีปริมาณการส่งออกน้อยกว่าเวียดนาม แต่ในแง่ของคุณภาพ และแบรนด์นั้น กัมพูชาค่อยๆ กลายมาเป็นคู่แข่งที่มองข้ามไปไม่ได้ในภูมิภาคนี้
นายเหวียน ซวน ควง บอกด้วยว่า ในกลยุทธ์ระยะยาวนั้น ภาคเกษตรเวียดนาม ควรมุ่งเน้นไปที่การลดพื้นที่ปลูกข้าว ให้ลงมาอยู่ในระดับที่รับประกันได้ถึงความมั่นคงในด้านอาหาร และการส่งออก