ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (12 พ.ย.) เปลี่ยนแปลงกันเล็กน้อย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และสถานการณ์การเมืองท้องถิ่นในฮ่องกง
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดบวก 16.43 จุด หรือ 0.07% ที่ 23,348.27 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ขยับขึ้นมา 55.40 จุด หรือ 0.21% ที่ 26,981.95 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนลดลง 6.89 จุด หรือ 0.24% ที่ 2,903.09 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ปรับขึ้น 9.46 จุด หรือ 0.29% ที่ 3,250.11 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.)ที่ 27,691.49 จุด เพิ่มขึ้น 10.25 จุด หรือ 0.04% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,087.01 จุด ลดลง 6.07 จุด หรือ 0.20% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,464.28 จุด ลดลง 11.04 จุด หรือ 0.13%
ตลาดฮ่องกงฟื้นตัวขึ้นช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานปิดตลาดร่วงลงไปเกือบ 3% แรงหนุนจากการช้อนซื้อเก็งกำไร แต่นักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังตัวอยู่ จากเหตุประท้วงรอบใหม่ในเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ ที่กลายเป็นสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกให้ความสนใจจับตามอง
นักลงทุนทั่วเอเชียส่วนใหญ่ ยังไม่ค่อยเข้าลงทุนมากนัก รอดูสถานการณ์อยู่รอบนอก ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก ในวันนี้ตามเวลาในสหรัฐ เพื่อจับตาดูสัญญาณเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าส่วนแรกของสหรัฐกับจีน
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กลายเป็นต้นเหตุให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลง หลังจากที่เขาออกมาบอกว่า ไม่เห็นด้วยต่อการยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าจากจีนแบบเป็นระยะๆ
ทางด้านราคาน้ำมันในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวลงมาเล็กน้อย จากการที่ข้อตกลงการค้าของ 2 ยักษ์เศรษฐกิจโลก ยังไม่มีความคืบหน้า กลายเป็นแรงกดดันต่อราคา โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท เคลื่อนไหวล่าสุดขยับลงมา 22 เซนต์ ที่ 56.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำตลาดเอเชียร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แตะระดับต่ำสุดนับแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาที่ 1,447.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์
