ชาวโบลิเวียในกรุงลาปาซ ออกมาเฉลิมฉลองด้วยความดีใจ หลังประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ผู้นำประเทศ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากสูญเสียการสนับสนุนทั้งจากทหาร และตำรวจ หลังการประท้วงที่เกิดขึ้นนานกว่า 3 สัปดาห์
“ผมขอลาออกจากตำแหน่งในฐานะประธานาธิบดี” ผู้นำซ้ายจัดของโบลิเวียประกาศผ่านทางโทรทัศน์ที่แพร่ภาพไปทั่วประเทศ พร้อมระบุว่า เขาตัดสินใจลาออกเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพให้กับคืนมาสู่ประเทศ การเคลื่อนไหวที่ถือเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเหตุการณ์ที่รัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนลาออกจากตำแหน่ง และเสียงสนับสนุนประธานาธิบดีที่ทำหน้าที่ยาวนานที่สุดของลาตินอเมริกาสูญหายไป จนทำให้เกิดภาวะสุญญากาศขึ้นในประเทศชั่วคราว
ท้องถนนในกรุงลาปาซ เต็มไปด้วยประชาชนที่พากันออกมาเฉลิมฉลอง เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีดังกึกก้องไปทั่ว ผู้คนจำนวนมากพากันโบกธงไปมา
ทางด้านอดีตประธานาธิบดีคาร์ลอส เมซา แกนนำฝ่ายค้าน ตัวเก็งสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ของโบลิเวีย กล่าวว่า ชาวโบลิเวียได้สอนบทเรียนให้กับชาวโลก และว่าโบลิเวียในวันพรุ่งนี้จะกลายเป็นประเทศใหม่
ท่ามกลางความสับสนในสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น สมาชิกสภาพผู้แทนราษฎร และเจ้าหน้าที่โบลิเวียราว 20 คน ได้เข้าไปขอลี้ภัยในที่พักของทูตเม็กซิโก ส่วนรัฐบาลเม็กซิโก ก็ได้ประกาศว่า ได้ยื่นข้อเสนอให้นายโมราเลสลี้ภัยไปยังเม็กซิโกได้
ในเวลาต่อมา นายโมราเลสได้ทวีตข้อความว่ามีการออกหมายจับตัวเขา และว่ามีกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงโจมตีบ้านพักของเขาด้วย แต่วลาดิมีร์ ยูริ คาลเดอรอน ผู้บัญชาการตำรวจได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวท้องถิ่นว่า ไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น
ทางด้านนักวิเคราะห์มองว่า การลงจากตำแหน่งของนายโมราเลส มีแนวโน้มที่จะสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภูมิภาค ในช่วงเวลาที่บรรดาผู้นำหัวเอียงซ้าย พากันกลับคืนสู่อำนาจอีกครั้งทั้งในเม็กซิโก และอาร์เจนตินา
