ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (7 พ.ย.) ปรับตัวสู่ขาลง หลังทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน จากรายงานข่าวที่ระบุว่า สหรัฐ และจีนอาจเลื่อนการลงนามข้อตกลงการค้าออกไป ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง ถึงการขาดความคืบหน้าที่ชัดเจน
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุด ขยับลงมา 25.08 จุด หรือ 0.11% ที่ 23,278.74 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงลดลง 129.17 จุด หรือ 0.47% ที่ 27,559.47 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ขยับลงมา 7.61 จุด หรือ 0.26% ที่ 2,970.98 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ลดลง 0.97 จุด หรือ 0.03% ที่ 3,261.72 จุด
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ เมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) ปิดที่ 27,492.56 จุด ลดลง 0.07 จุด หรือ 0.00% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,076.78 จุด เพิ่มขึ้น 2.16 จุด หรือ 0.07% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,410.63 จุด ลดลง 24.05 จุด หรือ 0.29%
รอยเตอร์สรายงายงานว่า การพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพื่อลงนามในข้อตกลงการค้าฉบับชั่วคราว อาจเลื่อนออกไปจนถึงเดือนธันวาคม เพราะยังต้องเจรจากันต่อในเรื่องเงื่อนไข และสถานที่ที่จะจัดการประชุมกัน
ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์อย่างหลากหลายถึงกำหนดการประชุมที่จะจัดขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ การลงนามหลังจากการประชุมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ช่วงต้นเดือนธันวาคม
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นลดลง ทั้งเรื่องของข้อตกลง และความเป็นไปได้ที่จะเกิดการยกเลิกภาษีทุ่มตลาด
ทางด้านราคาน้ำมันดิบซื้อขายที่ตลาดเอเชียเช้าวันนี้ ปรับตัวลงมาเล็กน้อย หลังจากที่สหรัฐรายงานปริมาณน้ำมันดิบสำรองสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ขยับลงมา 2 เซนต์ ที่ 56.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
