ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (23 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เคลื่อนไหวในแดนบวก จากขาขึ้นของหุ้นโบอิง และแอปเปิ้ล แต่ยังโดนสกัดจากรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอของแคทเทอพิลลาร์ และเท็กซัส อินสทรูเมนท์ส ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดบวก 19.90 จุด หรือ 0.07% ที่ 26,808.00 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้นมา 2.77 จุด หรือ 0.09% ที่ 2,998.76 จุด และดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 0.79 จุด หรือ 0.01% ที่ 8,105.09 จุด
ราคาหุัน แอปเปิ้ล อิงค์ ปรับขึ้นมา 1% หลังมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า ในเร็ววันนี้ผู้ผลิตไอโฟนจะเปิดตัว “แอปเปิ้ล ทีวีพลัส ” บริการวีดิโอสตรีมมิง ที่อาจช่วยหนุนรายได้ในธุรกิจบริการของบริษัท
ขณะที่การทะยานขึ้นมา 4% ของหุ้นโบอิง ช่วยหนุนดาวโจนส์ให้รักษาแดนบวกเอาไว้ได้ ซึ่งราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมานี้เกิดขึ้นหลังผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายใหญ่รายนี้ ยืนยันถึงกำหนดเวลาที่โบอิง 737 แม็กซ์ เครื่องบินรุ่นขายดีของบริษัทที่โดนสั่งห้ามบินทั่วโลก จะกลับมาให้บริการอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี การออกคำเตือนด้านรายได้จากเท็กซัส อินสทรูเมนท์ส ที่ทำให้ราคาหุ้นบริษัทดิ่งลงไป 7% และบ่งชี้เป็นนัยถึงการหดตัวของอุตสาหกรรมชิป ทั้งจากความต้องการโลกที่ลดลง และจากสงครามการค้าจีนกับสหรัฐ กลายเป็นแรงกดดันสกัดขาขึ้นของดัชนีหลัก ให้เคลื่อนตัวไปไม่มากนัก
ตลาดยังรอดูผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่รายอื่นๆ ด้วย โดยไมโครซอฟท์ มีกำหนดรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 หลังตลาดปิดแล้ว
