ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงส่วนแรก ที่จะนำไปสู่การยุติสงครามการค้ากับจีน พร้อมระงับคำขู่ที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ 2 ฝ่าย ยืนยัน ยังมีงานต้องทำให้เสร็จอีกมาก ก่อนที่จะเห็นพ้องในข้อตกลงนี้
ข้อตกลงที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องเกษตร ค่าเงิน และการคุ้มครองลิขสิทธิ์ทรัพย์สินปัญญาในบางส่วนนั้น ถือเป็นความคืบหน้าครั้งใหญ่สุดของ 2 ประเทศในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา เพื่อยุติการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดการเงิน และทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอการเติบโต
อย่างไรก็ดี การประกาศบรรลุข้อตกลงในส่วนแรกนี้ ยังไม่รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งทำระบุว่า อาจต้องใช้เวลานานถึง 5 สัปดาห์กว่าจะลงนามกันได้
ผู้นำสหรัฐยอมรับว่า ข้อตกลงนี้อาจล่มกลางคันในช่วงเวลาดังกล่าว แม้จะแสดงความเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นไปด้วยดี
“ผมคิดว่าเรามีความเข้าใจในประเด็นหลักๆ เราผ่านขั้นตอนสำคัญๆ มามากมาย แต่ก็ยังมีงานอีกมากมายเช่นกันที่เราต้องทำ เรายังไม่ลงนามในข้อตกลง จนกว่าเราจะได้มันมา และสามารถบอกกับท่านประธานาธิบดีได้ว่า เรื่องนี้ตกลงกันได้แล้ว” นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุ
กระนั้นก็ตาม ทรัมป์กล่าวระหว่างการพบปะกับรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ หัวหน้าคณะการเจรจาของจีนว่า ทั้ง 2 ใกล้ที่จะปิดฉากการทำสงครามการค้าแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
แต่หลิวกลับมีท่าทีที่แตกต่างออกไป โดยเขาบอกว่า 2 ฝ่ายมีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในหลายด้าน ซึ่งจีนเองก็ดีใจกับเรื่องนี้ และจะดำเนินความพยายามต่อไป
ขุนคลังสหรัฐบอกด้วยว่า ทรัมป์เห็นพ้องที่จะไม่เดินหน้าขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าประมาณ 250,000 ล้านดอลลาร์ ให้มาอยู่ในระดับที่ 30% จาก 25% ตามกำหนดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
แต่นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐบอกว่า ผู้นำสหรัฐยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้า ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคมนี้
