ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นทุกปี ปีที่ผ่านมากว่า 9 ล้านคน คาดการณ์ปีนี้อยู่ที่กว่า 10 ล้านคน ถือเป็นหนึ่งในตลาดกำลังหลักของแบรนด์สินค้าในประเทศไทย โดยเฉพาะ “แบรนด์ไทย” เนื่องจากชาวจีนชื่นชอบสินค้าไทย
ตัวเลขสถิติต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีน พบว่าในปี 2560 “จีน” เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางมาไทยมากที่สุดจำนวนกว่า 9.5 ล้านคน ใช้เวลาท่องเที่ยวเฉลี่ย 5-7 วัน/ทริป มีอัตราการใช้จ่าย 2.5-5 หมื่นบาท/คน/ทริป (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)
มาดูค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน แบ่งเป็น ค่าที่พัก 27% ,ช้อปปิ้ง 27% ,อาหาร 18% ,กิจกรรมผ่อนคลาย 11% เป็นต้น
แบรนด์ไทยชิงกำลังซื้อนักท่องเที่ยวจีน
ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ เอ็มไอ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดีย อินไซต์ จำกัด ธุรกิจมีเดีย เอเยนซี กล่าวว่าในภาวะกำลังซื้อไทยยังคงถดถอย กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นอีกกลุ่มกำลังซื้อสำคัญที่ “นักการตลาด” มองเห็นเป็นโอกาส จากก่อนหน้านี้หลายแบรนด์ไม่เคยทำการตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ปัจจุบันเริ่มทำการตลาดเจาะตลาดจีน
เดิมการทำตลาดเจาะกำลังซื้อนักท่องเที่ยวจีน มีทั้งแบรนด์สินค้าที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน ไม่ว่าจะเป็น ยาดม ยาหม่อง สแน็คสาหร่าย สินค้ากลุ่มสมุนไพร โอท็อป ต่างๆ ที่คนจีนซื้อไปและมีการรีวิวบอกต่อ
“คนจีนมีนิสัยเหมือนนักท่องเที่ยวไทย ที่นิยมซื้อของฝาก ที่มีการบอกต่อว่าดี จะกวาดซื้อแบบเกลี้ยงชั้นวาง เหมาซื้อเป็นลังๆ เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาระยะหนึ่ง”
ส่งผลให้สินค้าหลายแบรนด์เห็นโอกาสดังกล่าว เริ่มมีการซื้อพื้นที่สื่อโฆษณาเจาะนักท่องเที่ยวตั้งแต่ สนามบินขาเข้ามากขึ้น รวมทั้งป้ายโฆษณาทำเลใจกลางเมือง ปรับคอนเทนท์โฆษณาให้เป็นภาษาจีน โดยบางสินค้าคนไทยอาจไม่รู้สึก แต่คนจีนรู้จักดี จากการเห็นรีวิวมาตั้งแต่ต้นทาง เรียกว่าเป็น a must item ที่ต้องมาซื้อในไทย
“เทรนด์นักท่องเที่ยวจีนแห่ซื้อสินค้าไทย ทำให้หลายแบรนด์ต้องการเข้าไปแย่งส่วนแบ่งเค้กก้อนนี้ และหันมารุกสื่อสารการตลาดอย่างต่อเนื่อง”
รีเทลช็อปเสริมมุมสินค้าเจาะตลาดจีน
นอกจากนี้ยังพว่า รีเทลช็อป ทั้ง เซเว่น อีเลฟเว่น ,วัตสัน, บู๊ทส์ จัดพื้นที่มุมสินค้าที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมซื้อกลับบ้าน กลุ่มที่ได้รับความสนใจในขณะนี้ คือ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หลายแบรนด์ เช่น มิสทิน, คาร์มาร์ท, สเนลไวท์, นามุไลฟ์ ที่พบว่ามีการลงโฆษณาเพื่อเจาะตลาดสินค้าจีนอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งที่ป้ายโฆษณาสนามบิน พื้นที่โฆษณาใจกลางเมือง โดยมีการปรับอาร์ตเวิร์คโฆษณาให้มีเนื้อหาภาษาจีน
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์เล็ก ๆ ที่คนไทยอาจไม่รู้จัก แต่คนจีนรู้จักดี ทั้งกลุ่มเครื่องสำอาง สมุนไพร อาหารเสริม คอลลาเจน ที่มีการใช้พรีเซ็นเตอร์ระดับต้นๆ แต่ไม่ได้มุ่งทำตลาดคนไทย
“ไป่ตู้”เผย 10เครื่องสำอางสาวจีนนิยมช้อปของฝาก
สอดคล้องกับมุมมองของ “ไป่ตู้” เป็นเสิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของประเทศจีน โดย พัชรพร สิริทรัพย์วงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ไป่ตู้ ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีสินค้าด้านความงาม และมีสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาครองใจลูกค้าชาวจีนอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีสินค้าความงาม เครื่องสำอางจำนวนมาก แม้ไม่ได้ประสบความสำเร็จกับการขายสินค้าให้กับลูกค้าชาวไทย แต่สามารถสื่อสาร สร้างการรับรู้ และประสบความสำเร็จในการทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีน จนสามารถสร้างยอดขายสินค้าเหล่านั้นให้เป็นของฝากติดอันดับและสร้างรายได้ให้กับสินค้าไทย
ผู้หญิงส่วนมากเมื่อไปท่องเที่ยวในต่างประเทศมักจะเลือกซื้อสินค้าประเภทแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง กลับมาเป็นของใช้ของฝาก ประเทศไทยเองสามารถขายสินค้าของฝากประเภทเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวให้เป็นสินค้าของฝากที่มีชื่อเสียง และเกิดการบอกต่อมายาวนาน
โดยสินค้าเครื่องสำอาจ ที่ได้รับความนิยมบนโลกโซเชียลมีเดียของจีนในช่วงระหว่างต้นปีนี้ และมีข้อมูลการแนะนำการเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้กลับไปเป็นของใช้ของฝาก โดยมีการจัดอันดับสินค้าพบว่า 10 อันดับได้แก่ แป้งทาหน้าผสมรองพื้น, ครีมทามือ บำรุงเล็บมือ, ยาแต้มสิว, ครีมกันแดด, สเปรย์กันยุง, อายไลน์เนอร์, มาสคาร่า, ดินสอเขียนคิ้ว, มาร์คหน้า, สบู่สมุนไพร