วันนี้ (1 ต.ค.) ฮ่องกงตกอยู่ในสภาวะที่เกือบจะเป็นเมืองปิดตาย หลังทางการนำเครื่องกีดขวางปิดตายย่านใจกลางเมือง ร้านค้าต่างๆ พากันปิดให้บริการ และมีตำรวจปราบจลาจลประจำอยู่ตามจุดต่างๆ เป็นจำนวนมาก ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจว่า งานฉลองครบรอบ 70 ปีวันชาติจีน ในกรุงปักกิ่ง จะไม่โดนดึงความสนใจไปด้วยกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง
เขตปกครองพิเศษของจีนแห่งนี้ ตกอยู่ในภาวะวุ่นวายมานานเกือบ 4 เดือน จากการปะทะบนท้องถนน และการชุมนุมประท้วง ซึ่งถือเป็นความท้าทายต่อคะแนนนิยมของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ครั้งรุนแรงสุด นับแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำแดนมังกร
ช่วงเช้าวันนี้ เอ็มทีอาร์ ผู้ให้บริการรถไฟใต้ดินฮ่องกง ประกาศปิดสถานีเพิ่มอีก 8 แห่ง เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น รวมถึงสถานีคอสเวย์ เบย์ ชัมชุ่ยโป หว่องไต้ซิน และชาติน จากเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) ที่ประกาศปิดไปแล้ว 3 สถานี คือ แอดมิรัลตี หว่านไจ๋ และปรินซ์เอ็ดเวิร์ด
ทางด้านผู้ประท้วงฮ่องกงประกาศที่จะดำเนินการประท้วงครั้งใหญ่ในวันนี้ เพื่อแสดงจุดยืนของตัวเองในการเรียกร้องประชาธิปไตย และหวังดึงความสนใจจากประชาคมโลกมาจากจีน ที่ตั้งเป้าใช้งานฉลองวันชาติเพื่อแสดงให้เห็นถึงอำนาจทางเศรษฐกิจ และกองทัพของประเทศ
ในวันนี้ ฮ่องกงได้จัดพิธีเชิญธงขึ้นมา เพื่อฉลองครบรอบ 70 ปี วันก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง ในคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง และแขกอีกราว 12,000 คน ร่วมดูการประกอบพิธีอยู่ภายในศูนย์ประชุม และจัดนิทรรศการ ในเขตหว่านไจ๋
บริเวณใกล้กันนั้น กลุ่มสันนิบาตประชาธิปไตยพลเรือน ได้จัดการชุมนุมประท้วงขึ้น เพื่อเรียกร้องให้ยุติการปกครองแบบพรรคเดียวของจีน มีผู้ประท้วงราว 20 คน แห่โลงศพสีดำ เดินขบวนเป็นระยะสั้นๆ มาจากสถานีรถไฟเอ็มทีอาร์สถานีหว่านไจ๋ ก่อนที่จะเผชิญหน้า และเกิดการปะทะกับกลุ่มผู้สนับสนุนจีน โดยตำรวจได้ใช้สเปรย์พริกไทย เพื่อแยกทั้ง 2 กลุ่มออกจากกัน และมีการจับกุมผู้ประท้วงไปอย่างน้อย 1 ราย
การประท้วงดังกล่าว เกิดขึ้นเป็นกลุ่มแรก ของการประท้วงหลายกลุ่มที่กำหนดจะมีขึ้นในวันนี้ โดยนักเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ได้เรียกร้องให้ชาวฮ่องกง เข้าร่วมการชุมนุมใน “วันแห่งการไว้อาลัย” ที่มีกำหนดจะเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในพื้นที่ 6 เขตทั่วเกาะฮ่องกง
ภาพ : AFP, HKFP