ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (16 ก.ย.) ปรับตัวลงเล็กน้อย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทำให้การจัดหาน้ำมันดิบป้อนตลาดโลกหายไปราว 5% แต่ราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นมากกว่า 10% ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 165.49 จุด หรือ 0.61% ที่ 27,054.03 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับลง 14.61 จุด หรือ 0.49% ที่ 2,992.78 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 39.89 จุด หรือ 0.49% ที่ 8,136.82 จุด
การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมัน พุ่งขึ้นมากถึง 20% ก่อนที่จะปรับลดลงมาเล็กน้อย หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ อนุมัติให้ระบายน้ำมันดิบสำรองสำหรับภาวะฉุกเฉินเข้าสู่ตลาด เพื่อรับประกันถึงเสถียรภาพในการจัดหา
ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นมา ช่วยหนุนให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่มีผลประกอบการย่ำแย่สุดในปีนี้ ทะยานขึ้นมา 3.18% ถือเป็นวันที่มีการเคลื่อนไหวดีสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมเป็นต้นมา
อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่จะเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนี้ กดดันให้ราคาหุ้นของกลุ่มสายการบิน และเรือสำราญร่วงลง โดยราคาหุ้นของอเมริกัน แอร์ไลนส์ กรุ๊ป อิงค์ เดลต้า แอร์ไลนส์ อิงส์ และคาร์นิวัล คอร์ป ปรับลงมาระหว่าง 2-5%
