World News

หลายปัจจัยรุม กด ‘หุ้นเอเชีย’ ไร้ทิศทางชัดเจน

ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (28 ส.ค.) ไร้ทิศทางชัดเจน หลังวอลล์สตรีทเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เจอแรงเทขายจนปิดในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่ยังเกาะติดนักลงทุนอยู่

sto

ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดขยับขึ้นมา 26.30 จุด หรือ 0.13% ที่ 20,482.38 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงบวก 18.61 จุด หรือ 0.07% ที่ 25,682.68 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ลดลง 13.14 จุด หรือ 0.45% มาอยู่ที่ 2,889.05 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ขยับลงมา 5.28 จุด หรือ 0.17% ที่ 3,062.24 จุด

ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ที่ 25,777.90 จุด ลดลง 120.93 จุด หรือ 0.47% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,869.16 จุด ลดลง 9.22 จุด หรือ 0.32% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 7,826.95 จุด ลดลง 26.79 จุด หรือ 0.34%

นักวิเคราะห์ชี้ว่า มาตรการกระตุ้นกาารบริโภคที่รัฐบาลจีนประกาศออกมานั้น ช่วยหนุนบรรยากาศในตลาดให้ดีขึ้นมาบ้าง ทั้งบางตลาดยังได้แรงหนุนจากการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร

อย่างไรก็ดี การที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น สูงกว่าระยะยาวอีกครั้ง ซึ่งการเป็นบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับความไม่แน่นอนในการเจรจาการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ทำให้เกิดความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และกลายเป็นปัจจัยกดดันที่เกาะติดตลาดอยู่

ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ ที่ 54.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลท โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 รวมทั้งรายงานที่ว่า สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ให้ความร่วมมือมากขึ้นในการปฏิบัติตามข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

ส่วนราคาทองคำตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 14.60 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,551.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากการที่นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง และเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

Avatar photo