ผู้นำบราซิล ปฏิเสธไม่รับความช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี7) ที่จะจัดสรรเงิน 20 ล้านดอลลาร์ ให้กับบราซิล เพื่อรับมือกับเหตุไฟป่าอเมซอน
นายโอนิกซ์ ลอเรนโซนิ หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ผุู้นำบราซิล ระบุว่า บราซิลรู้สึกขอบคุณต่อข้อเสนอดังกล่าว แต่บางทีทรัพยากรเหล่านี้ น่าจะนำไปใช้กับการฟื้นฟูป่าในยุโรปมากกว่า และว่า ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส น่าจะหันไปให้ความสนใจต่อเรื่องในประเทศของตัวเองมากกว่า
ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีโบลโซนาโร ก็ได้ออกมายืนยันท่าทีเดียวกันนี้ แม้ก่อนหน้านั้น นายริคาร์โด แซลเลส รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมบราซิล จะให้สัมภาษณ์ว่า บราซิลยินดีรับความช่วยเหลือจากจี7 เพื่อรับมือกับไฟป่าอเมซอน ที่เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วเกือบ 600,000 ไร่ แต่หลังจากการประชุมร่วมระหว่างประธานาธิบโบลโซนาโร และคณะรัฐมนตรี รัฐบาลบราซิลก็ได้เปลี่ยนท่าทีดังกล่าว
นายลอเรนโซนิ บอกด้วยว่า บราซิลเป็นประเทศประชาธิปไตย ที่เสรี ไม่เคยมีลัทธิอาณานิคม และลัทธิจักรวรรดินิยมมาก่อน ซึ่งอาจเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีมาครง
ทั้งนี้ แม้พื้นที่ราว 60% ของป่าอเมซอนจะอยู่ในบราซิล แต่ผืนป่าที่กว้างใหญ่แห่งนี้ ก็แผ่ขยายครอบคลุมพื้นที่ในประเทศต่างๆ ถึง 8 ประเทศหรือดินแดน รวมถึง เฟรนช์เกียนา เป็นแคว้นโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปนี้
นับถึงเมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) มีไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นใหม่หลายร้อยจุด ในพื้นที่ป่าอเมซอน ที่อยู่ในอาณาเขตของบราซิล แม้เครื่องบินของกองทัพจะขนน้ำลงไปทิ้งตามพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ป่าอย่างหนักแล้วก็ตาม
เหตุไฟป่าอเมซอนครั้งนี้ ยังทำให้เกิดความขัดแย้งทางการทูตระหว่างผู้นำบราซิล และฝรั่งเศส หลังจากที่ประธานาธิบดีมาครง ออกมาขู่ที่จะขัดขวางข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) กับลาตินอเมริกา จนกว่านายโบลโซนาโร จะดำเนินมาตรการอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องพื้นที่ป่า ซึ่งหดหายไปอย่างรวดเร็ว จากการทำไม้ และเหมืองแร่
ประธานาธิบดีโบลโซนาโร โต้กลับคำขู่ของนายมาครง ด้วยการกล่าวหาว่า เขาเป็นพวกคลั่งไคล้การล่าอาณานิคม และอีกไม่กี่วันต่อมา ก็ไปแสดงความเห็นด้วยกับคอมเมนต์ต่างๆ บนโลกออนไลน์ ที่โจมตีภริยานายมาครง จนทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ฝ่ายร่วงแตะระดับสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งเมื่อเดือนที่แล้ว นายโบลโซนาโร ยังปฏิเสธที่จะให้นายฌอง อิฟส์ เล ดริออง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ที่เดินทางมาเยือนบราซิลเข้าพบ โดยให้เหตุผลว่า ต้องไปพบกับช่างทำผม