ถือเป็นการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ของ มอสเดนทอลคลินิก (MOS Dental) นับแต่ก่อตั้งธุรกิจในปี 2551 จนปัจจุบันมีจำนวนสาขาถึง 20 แห่งในจังหวัดกรุงเทพฯ ด้วยการขายหุ้นใหญ่ให้กับ แฟมิลี่เดนทอลเซ็นเตอร์ (Family Dental Centre – FDC) กลุ่มธุรกิจด้านคลินิกทันตกรรมอันดับสองของประเทศสิงคโปร์ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการบริการด้านทันตกรรม และรับการสนับสนุนด้านเงินทุนในการขยายธุรกิจทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ
ทันตแพทย์อดิศร หาญวรวงศ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ มอสเดนทอลคลินิก เปิดเผยว่า การตกลงร่วมเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ แฟมิลี่เดนทอลเซ็นเตอร์ จะช่วยสร้างโอกาสให้มอสเดนทอลคลินิก ยกระดับสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการด้านทันตกรรม จากเดิมที่การบริหารงานธุรกิจจะอยู่ภายใต้ความจำกัดทั้งในแง่ทรัพยากรด้านการบริหารจัดการและด้านเงินทุน
ทั้งนี้ แฟมิลี่เดนทอลเซ็นเตอร์ จะเข้ามาช่วยเสริมประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนโครงสร้างของธุรกิจ การวางระบบ และระเบียบในการปฏิบัติงานที่สามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจซึ่งก่อให้เกิดผลประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติงานภายในคลินิกและงานด้านการบริการ
นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนแผนงานของมอสเดนทอลคลินิก ในการขยายธุรกิจออกไปสู่พื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ในแผนการขยายจำนวนสาขาสำหรับปี 2562 รวมถึงการเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยและต้องการรับบริการด้านทันตกรรมอีกด้วย โดยทันตแพทย์อดิศร ยังคงเป็นผู้ดูแลและบริหารธุรกิจเช่นเดิม
ด้านนายลีออน ล่วย ประธานบริหารของ แฟมิลี่เดนทอลเซ็นเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้ามาถือหุ้นใหญ่ใน มอสเดนทอลคลินิก ถือเป็นก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่จะนำ แฟมิลี่เดนทอลเซ็นเตอร์ ไปสู่ความเป็นผู้นำการให้บริการด้านทันตกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ยังมองเห็นโอกาสจากการที่ประเทศไทย เป็นประเทศอันดับต้นๆ สำหรับการท่องเที่ยวและการมารับบริการด้านทันตกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เมื่อเทียบอัตราส่วนของทันตแพทย์ต่อผู้เข้ารับบริการในประเทศสิงคโปร์ จะอยู่ที่ 1 ต่อ 3,200 คน ส่วนในยุโรปตะวันตกอยู่ที่ 1 ต่อ 1,600 คน ขณะที่ประเทศไทยมีอัตราส่วนที่ต่ำกว่ามากที่ 1 ต่อ 5,800 คน ทำให้ธุรกิจบริการด้านทันตกรรมในประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงตลาดต่ำกว่าเกณฑ์
ขณะเดียวกันยังพบว่า ในธุรกิจทันตกรรมเมืองไทย มีผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดเพียง 4 รายและมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 4% ในกรุงเทพฯ และ 2% ในภาพรวมทั้งประเทศ จึงเชื่อว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญของบริษัทที่จะเข้ามาบุกตลาดที่ยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก
การร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกของ แฟมิลี่ เดนทอล เซ็นเตอร์ ในการขยายธุรกิจนอกพื้นที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากและมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจการบริการด้านทันตกรรม โดยมีจำนวนคลินิก 18 สาขา ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และนับเป็นผู้ให้บริการด้านทันตกรรมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศสิงคโปร์
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้ แฟมิลี่เดนทอลเซ็นเตอร์สามารถเพิ่มจำนวนคลินิกได้มากขึ้นเป็นสองเท่าหรือจำนวน 38 สาขา ในภูมิภาคแห่งนี้ ด้วยรายได้รวมกว่า 30 ล้านดอลลาร์ต่อปี และมีทีมงานและบุคลากรผู้ให้บริการด้านทันตกรรมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 500 คน
