ดัชนีหลัก 3 ตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนัก ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (23 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เหตุ “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐ ออกมาบอกให้บริษัทอเมริกันเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ ที่นอกเหนือจากจีนทันที หลังทางการปักกิ่งย้ำก่อนหน้านี้ถึงการตอบโต้สหรัฐ ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าจากแดนอินทรี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ดิ่งลง 478.37 จุด หรือ 1.82% มาอยู่ที่ 25,773.87 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลงมา 56.16 จุด หรือ 1.92% ที่ 2,866.79 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับลง 182.71 จุด หรือ 2.29% ที่ 7,808.68 จุด
แม้ตลาดจะได้แรงหนุนในช่วงแรกๆ ของการซื้อขาย จากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บอกว่า เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปัจจุบันให้ดำเนินต่อไปได้ ท่าทีที่ช่วยสนับสนุนกระแสคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลงไปอีก
แต่การประกาศของผู้นำสหรัฐ ทำให้ตลาดเกิดความกังวลรอบใหม่ ถึงผลกระทบที่สงครามการค้าจะมีต่อการเติบโต แม้ทรัมป์จะไม่ได้ให้รายละเอียดว่า เขาจะดำเนินการอะไร จากการออกคำสั่งดังกล่าว บอกแต่เพียงว่า จะมาให้คำตอบภายหลังในวันนี้
ก่อนหน้านี้ จีนออกมาประกาศถึงการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึง ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร น้ำมันดิบ เครื่องบินเล็ก และรถยนต์ โดยสินค้าบางอย่างจะถูกจัดเก็บภาษีในอัตราใหม่วันที่ 1 กันยายนนี้ ส่วนที่เหลือจะจัดเก็บในวันที่ 15 ธันวาคม
นักวิเคราะห์ชี้่ว่า เป็นเรื่องปกติที่ตลาดจะมีปฏิกิริยาดังกล่าวต่อท่าทีของผู้นำสหรัฐ เพราะตลาดไม่น่าจะคิดมาก่อนว่า สถานการณ์ความขัดแย้ง จะรุนแรงขึ้นมาจนถึงระดับนี้
“แม้การลดดอกเบี้ย จะช่วยเศรษฐกิจ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะไปชดเชยกับสงครามการค้าโลก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป”
