ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (21 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย หลังผู้ค้าปลีกจำนวนหนึ่ง รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และนักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด มินนิท เพื่อหาข้อสรุปเพิ่มเติม ถึงการลดดอกเบี้ยในอนาคต
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ปรับขึ้นมา 237.05 จุด หรือ 0.91% มาอยู่ที่ 26,199.49 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 24.33 จุด หรือ 0.84% ที่ 2,924.84 จุด และดัชนีแนสแด็กบวก 80.36 จุด หรือ 1.01% ที่ 8,028.92 จุด
ราคาหุ้นของ “ทาร์เก็ต คอร์ป” ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นถึง 16.3% สูงสุดในดัชนีเอสแอนด์พี 500 หลังจากที่รายงานผลกำไรรายไตรมาส สูงกว่าที่ประเมินไว้ พร้อมปรับคาดการณ์รายได้รายปีสูงขึ้น โดยมีราคาหุ้นของ “โลวส์ คอส อิงค์” เชนค้าปลีกสินค้าของตกแต่งบ้าน ทะยานตามมาติด 11.4% จากการรายงานผลกำไรสูงกว่าที่ประเมินไว้เช่นกัน
จุดสนใจหลักของนักลงทุนในวันนี้ อยู่ที่การเปิดเผยรายงานเฟดมินนิท ของการประชุมเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดไม่น่าจะเคลื่อนไหวหวือหวานัก จนกว่าจะได้ความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของเฟด ที่อาจจะมองเห็นได้จากเฟดมินนิท
นอกจากนี้ ขาขึ้นของตลาดยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ที่สถานการณ์ดูจะย่ำแย่ลง หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติการขายเครื่องบินรบ เอฟ 16 ให้กับไต้หวัน และจีนประกาศที่จะตอบโต้เรื่องนี้
ตลาดยังรอดูถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่จะขึ้นพูดต่อที่ประชุมธนาคารกลางในวันศุกร์นี้ (23 ส.ค.) ซึ่งอาจทำให้เห็นข้อสรุปได้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเฟด มีแผนที่จะดำเนินการเพิ่มเติมอย่างไร เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
