หุ้นเอเชียเช้าวันนี้ (7 ส.ค.) ปรับตัวลงมาเล็กน้อย จากแรงเทขายที่ลดลง เหตุนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกถึงความเป็นไปได้ที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ จะบานกลายจนเกิดสงครามค่าเงินขึ้นมา หลังจากที่ทางการจีนเข้ามาควบคุมการอ่อนค่าของเงินหยวน
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุด ลดลง 97.91 จุด หรือ 0.48% ที่ 20,487.40 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 103.81จุด หรือ 0.40% ที่ 25,872.43 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ จีนขยับขึ้นมา 4.04 จุด หรือ 0.15% ที่ 2,781.59 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ สิงคโปร์ ลดลง 2.69 จุด หรือ 0.08% ที่ 3,167.78 จุด
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) ที่ 26,029.52 จุด พุ่งขึ้น 311.78 จุด หรือ 1.21% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,881.77 จุด เพิ่มขึ้น 37.03 จุด หรือ 1.30% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 7,833.27 จุด พุ่งขึ้น 107.23 จุด หรือ 1.39%
การฟื้นตัวของตลาดเกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางจีนได้ดำเนินมาตรการต่างๆ จำนวนหนึ่ง เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเงินหยวน ทั้งการตรึงการเคลื่อนไหวในระดับที่แข็งค่ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการขายพันธบัตร ส่งสัญญาณว่า ไม่ต้องการให้เงินหยวนอ่อนค่าลงไปมากกว่านี้ ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนจะใช้หยวนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงเปิดกว้างในการทำข้อตกลงการค้ากับจีน หลังนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจทำเนียบขาว บอกว่า รัฐบาลสหรัฐยังต้องการเจรจากับจีน และยังมีแผนที่จะจัดเจรจาในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ดี ความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่ยังเกาะติดตลาดอยู่ ยังเป็นปัจจัยสร้างแรงกดดันให้กับราคาน้ำมันดิบ โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 53.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 58.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
