เกษร พร็อพเพอร์ตี้ เล็งปี 2563 พัฒนาโครงการแนวราบแห่งแรก หลังตลาดคอนโดมิเนียมแนวโน้มชะลอตัว ซัพพลายล้น แต่ปีนี้ยังเดินหน้าผุดคอนโดมิเรียมทำเลทอง ลุยต่อย่านทองหล่อ เปิด “เทลล่า ทองหล่อ” มูลค่ากว่า 4,100 ล้านบาท ชี้ราคาที่ดินทองหล่อพุ่งแตะตารางวาละ 2 ล้านบาท
นายฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเริ่มพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ในรูปแบบโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน หรือ อัลติเมด ไฮเอนด์ ประมาณ 20 ยูนิต ระดับราคาอยู่ที่ 30-60 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีแผนพัฒนาและเปิดตัวโครงการแนวราบได้ในช่วงต้นปี 2563
ทั้งนี้เนื่องจากพบว่า ภาวะตลาดคอนโดมิเนียมในครึ่งปีแรก 2562 พบว่า มีคอนโดมิเนียมเปิดตัวรวม 23,600 ยูนิต ใกล้เคียงกับครึ่งแรกของปีก่อน ที่น่าสนใจคือ มีจำนวนคอนโดมิเนียมเหลือขายมากถึง 68,652 ยูนิต ซึ่งสะท้อนภาวะคอนโดล้นตลาดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลจากมาตรการแอลทีวี และคาดว่าจะส่งผลถึงการซื้อคอนโดมิเนียมในช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ พบว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในทิศทางที่ดี โดยตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวร์รี่ยังเติบโตได้ เพราะความต้องการของผู้บริโภคยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ซัพพลายในตลาดระดับหรูยังมีไม่มากนัก เนื่องจากแต่ละปีมีการพัฒนาโครงการใหม่เกิดขึ้นไม่มาก โดยเฉพาะในทำเลทองหล่อซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพและมีระดับราคาที่ดินที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หรืออยู่ที่ประมาณกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวา
ดังนั้น บริษัทจึงพัฒนาโครงการโครงการ เทลล่า ทองหล่อ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยมีขนาดพื้นที่กว่า 1 ไร่ เป็นอาคารสูง 32 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 84 ยูนิต มูลค่า 4,100 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 330,000 บาทต่อตารางเมตร หรือประมาณ 73-255 ล้านบาท
ปัจจุบันโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ มียอดขายกว่า 90% และมียอดโอนกรรมสิทธิ์แล้วกว่า 40% ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2562 ขณะที่ราคาที่ดินย่านทองหล่อยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ตารางวาละ 2 ล้านบาท
สอกย
ส่วนแผนการดำเนินงานหลังจากนี้บริษัทคาดว่าจะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง ซึ่งมีแผนพัฒนาโครงการแนวราบ โดยจะพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน หรือระดับ อัลติเมด ไฮเอนด์ ประมาณ 20 ยูนิต ระดับราคาประมาณ 30-60 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะมีแผนพัฒนาและเปิดตัวโครงการแนวราบได้ในช่วงต้นปี 2563
