แบรนด์สินค้าหรู “ริชมอนด์” กลายเป็นธุรกิจรายล่าสุดที่ออกมารายงานว่า ธุรกิจได้รับผลกระทบจากการประท้วงในฮ่องกง ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
บริษัทสินค้าหรูหราสัญชาติสวิสรายนี้ บอกว่า เหตุความวุ่นวายทางการเมืองในฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับนาฬิกาของบริษัท ได้ทำให้ยอดขายร่วงลงอย่างมาก
กรณีของริชมอนด์สอดคล้องกับการคาดการณ์ของบรรดาผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ ในฮ่องกง ที่ประเมินว่า การประท้วงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวด้วยนั้น จะทำให้ยอดขายในปีนี้ดิ่งลงอย่างหนัก
ในแถลงการณ์ที่ออกมาวันนี้ (25 ก.ค.) ริชมอนด์ระบุว่า ยอดขายในเอเชียแปซิฟิกช่วง 3 เดือน ถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นที่ฮ่องกง ที่มียอดขายร่วงลง เพราะการชุมนุมประท้วง และเงินดอลลาร์ฮ่องกงแข็งค่าขึ้น
ก่อนหน้านี้ สมาคมบริหารจัดการค้าปลีกฮ่องกง (เอชเคอาร์เอ็มเอ) เปิดเผยว่า สมาชิกของสมาคมเกือบทั้งหมดมียอดขายที่ลดลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักกว่านี้อีก
“การปิดร้านค้าที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน เพราะการประท้วง ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ยอดขายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของพนักงานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานพาร์ทไทม์ และกลุ่มที่ต้องพึ่งพาค่าคอมมิชชัน”
บรรดาผู้ให้บริการท่องเที่ยว ก็แสดงความกังวลต่อสถานการณ์นี้เช่นกัน
สหภาพแรงงานฮ่องกง กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินไหญ่ ลดลงมาอยู่ที่ 5,641 คน เมื่อเดือนมิถุนายน จากปกติที่จะมีปริมาณเฉลี่ยเดือนละ 7,800 คน
เช่นเดียวกับยอดเข้าพักในโรงแรม ที่ลดลงมากถึง 20% ช่ีวงเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น และคาดว่าจะลดลงมากถึง 40% ในเดือนกรกฎาคมนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว