World News

คาด ‘สงครามการค้า’ ประเด็นหลักประชุมผู้นำอาเซียน

การประชุมผู้นำชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงเทพมหานคร ช่วงสุดสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มว่า บรรดาผู้นำจะร่วมกันหารือถึงเรื่องข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ในช่วงเวลาที่รัฐบาลปักกิ่งกำลังเดินหน้าผลักดันทำข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆ ที่จะครอบคลุมปริมาณการค้าโลกมากถึง 40%

ASEANlogo small 1

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่า เหล่าผู้นำจะหยิบยกเรื่องความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ และวิธีที่เมียนมาปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญาขึ้นมาพูดถึง ระหว่างการประชุม 2 วันที่จะเปิดฉากขึ้นในวันเสาร์นี้ (22 มิ.ย.)

ดรูว์ ธอมป์สัน นักวิจัยจากวิทยาลัยนโยบายสาธารณะลี กวน ยู ในสิงคโปร์ แสดงความเห็นว่า ในบรรดาประเทศที่ได้รับประโยชน์มากสุด จากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ คือ อาเซียน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ทำให้สามารถยืนหยัดรับมือกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้น

บริษัทจำนวนหนึ่ง รวมถึง บรูคส์ รันนิง และไฮเออร์ ต่างเริ่มดำเนินการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน โดยมองหาตลาดที่มีความเป็นมิตรมากกว่าเดิม และจัดเก็บภาษีนำเข้าในระดับต่ำ อย่าง เวียดนาม ไทย หรืออินโดนีเซีย

ขณะที่รัฐบาลจีนเองก็เร่งที่จะทำข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ ที่ครอบคลุมเกือบทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนในประเด็นเรื่องทะเลจีนใต้นั้น มีแนวโน้มที่จะเน้นไปถึงเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีการปรับเงื่อนไขในหลักปฏิบัติ สำหรับเหตุการณ์เรือประมงชนกันในทะเลให้เข้มงวดมากขึ้น หลังเมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งเกิดเหตุชนกันระหว่างเรือฟิลิปปินส์ กับจีนในทะเลแถบนี้

image

เมียนมาเองก็อาจต้องเจอกับแรงกดดัน จากเรื่องการรับตัวผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับประเทศ ที่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่ง อีวา วุนดาริ ส.ส.อินโดนีเซีย และสมาชิกสภาอาเซียนด้านสิทธิมนุษยชน ระบุว่า อาเซียนจำเป็นต้องยุติการทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นในการกระทำของเมียนมาต่อชาวโรฮิงญา

เหล่านักเคลื่อนไหวยังเรียกร้องให้บรรดาผู้นำอาเซียน จัดการกับปัญหาขยะพลาสติก และอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นขยะที่นำเข้ามาจากชาติตะวันตก และมาเก็บสะสมไว้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกรีนพีซ ระบุในสัปดาห์นี้ว่า อาเซียนกำลังกลายเป็นที่ทิ้งขยะแห่งใหม่ของโลก

Avatar photo