ตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้าวันนี้ (14 มิ.ย.) เคลื่อนไหวอย่างเบาบาง เหตุยังกังวลถึงเรื่องความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ รวมถึง ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ หลังเกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวโอมาน ที่ทำให้เกิดความกังวลในเรื่องการขนส่ง ผ่านเส้นทางเดินเรือสำคัญเส้นทางหนึ่งของโลก
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดโตเกียว เคลื่อนไหวล่าสุด ปรับขึ้น 50.24 จุด หรือ 0.24% มาอยู่ที่ 21,082.24 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ลดลง 102.35 จุด หรือ 0.37% มาอยู่ที่ 27,192.36 จุด ดัชนีคอมโพสิต ตลาดเซี่ยงไฮ้ ขยับขึ้น 2.02 จุด หรือ 0.07% ที่ 2,912.76 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ตลาดสิงคโปร์ ปรับลงมา 2.03 จุด หรือ 0.06% มาอยู่ที่ 3,218.63 จุด
ขณะที่ดัชนีหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) ปรับตัวสูงขึ้น หลังร่วงติดต่อกันมา 2 วัน โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,106.77 จุด เพิ่มขึ้น 101.94 จุด หรือ 0.39% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,891.64 จุด เพิ่มขึ้น 11.80 จุด หรือ 0.41% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,837.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.41 จุด หรือ 0.57%
ตลาดสหรัฐ ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 52.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม ปรับขึ้น 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 61.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์ชี้ว่า บรรยากาศในตลาดยังเต็มไปด้วยความระมัดระวังตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนอย่างมากของผลที่จะออกมาจากการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้มีแนวโน้มว่า นักลงทุนจะพากันรอดูสถานการณ์จนกว่าผลการประชุมเฟดจะออกมา
