Business

‘ช่อง3’จับมือ‘เจเคเอ็น’ลุยขายละครทั่วโลก

สถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจ “ทีวีดิจิทัล” เรียกว่ายังคงดุเดือดต่อไป  จากปัจจัย “ซัพพลาย” มากกว่า “ดีมานด์” ด้วยจำนวนทีวีดิจิทัลช่องใหม่ 22 ช่อง เพิ่มจาก 6 ช่องฟรีทีวี ในยุคอนาล็อก ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาทีวี ไม่ได้เพิ่มขึ้น ธุรกิจนี้จึงกลายเป็น Red Ocean ที่เกิดภาวะแข่งขันหั่นราคาโฆษณา เพื่อช่วงชิงเม็ดเงิน

ช่อง 3
ประชุม มาลีนนท์

ประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปัจจุบันธุรกิจทีวีดิจิทัล ยังคงแข่งขันแบบไม่กระพริบตาต่อไป ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่ช่องเรตติ้งสูง โดยช่อง 3 และช่อง 7 ยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจนี้

อย่างไรก็ตาม ช่อง 3 ได้มองโอกาสต่อยอดธุรกิจ มุ่งสู่ตลาด Blue Ocean ด้วยการนำคอนเทนท์ละคร ขายลิขสิทธิ์เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้ง ฟรีทูแอร์,เคเบิลทีวี และโอทีที

โดยเดือนพฤษภาคม ที่ผานมาได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ “เทนเซนต์” (Tencent)  โดย “เทนเซนต์ วิดีโอ” ประเทศจีน ขายลิขสิทธิ์ ละคร 3 เรื่อง ไปเผยแพร่ผ่าน เทนเซนต์ วิดีโอ แพลตฟอร์มรับชมคอนเทนท์ออนไลน์ ยักษ์ใหญ่ในจีน เพื่อออกอากาศละครพร้อมประเทศไทย (Simulcast) คือเรื่อง “ลิขิตรัก” (The Crown Princess) , Meo Me & You แมวของเขาและรักของเรา และ Beauty Boy ผู้ชายขายสวย

ปัจจุบัน “เทนเซนต์ วิดีโอ” มีสมาชิกกว่า 63 ล้านยูสเซอร์ มีจำนวนผู้ใช้งาน 140 ล้านยูสเซอร์ต่อวัน และกว่า 790 ล้านยูสเซอร์ต่อเดือน สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ “เทนเซนต์ วิดีโอ” กันรันตียอดผู้ชมละครทั้งเรื่องกว่า 500 ล้านวิวต่อเรื่อง

จับมือ“เจเคเอ็น”ขายลิขสิทธิ์ละครทั่วโลก

ล่าสุดจับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ในการเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของช่อง 3 มีหน้าที่ทำตลาดและขายลิขสิทธิ์ละครช่อง 3 ที่ออกอากาศระหว่างปี 2556-2560 จำนวน 70 เรื่อง ในตลาดต่างประเทศทั่วโลก ครอบคลุมตลาดใหม่ที่ช่อง 3 ยังไม่ได้เข้าไปจำหน่ายคอนเทนท์  ยกเว้น ประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา ที่ช่อง 3 ทำตลาดขายคอนเทนท์อยู่แล้วในขณะนี้

ช่อง3 เจเคเอ็น ละคร
ประชุม มาลีนนท์ -จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดี

สำหรับละครล็อตแรกที่จะส่งไปขายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ เช่น สามีตีตรา, ทรายสีเพลิง, รอยฝันตะวันเดือด, ลมซ่อนรัก, สองหัวใจนี้เพื่อเธอ, กำไลมาศ,เพลิงนารี, นาคี เป็นต้น

“ช่อง3 มองโอกาสต่อยอดคอนเทนท์ละคร ที่ถือเป็นความเชี่ยวชาญของเรา ในการขายลิขสิทธิ์ผ่านทุกแพลตฟอร์มในต่างประเทศ  และเป็นตลาดบูลโอเชี่ยน ที่ช่อง 3 เห็นโอกาสสร้างรายได้อื่นๆ เพิ่มเติม”

นาคี ช่อง3

เล็งต่อยอดโชว์-อีเวนท์

ทั้งด้าน Artist Management การนำดารา นักแสดงไทย ไปจัดงานโชว์ อีเวนท์ในต่างประเทศ ,การพัฒนาคาแรคเตอร์ต่าง ๆ จากละคร  เช่น ละครบุพเพสันนิวาส ที่มีกระแสความสนใจจากตลาดจีน แต่ละครเรื่องดังกล่าวไม่ได้นำเข้าไปเผยแพร่ในตลาดจีน  เพราะเป็นละคร ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องผี ซึ่งจึงไม่ผ่านการพิจารณาตรวจสอบเนื้อหา (เซ็นเซอร์) ในจีน

นอกจากนี้ระยะ 3-5 ปี ยังมองโอกาสทำงานร่วมกับ “เจเคเอ็น” ในการพัฒนางานอีเวนท์ หรือเทรดแฟร์ คอนเทนท์ โดยไทยเป็นเจ้าภาพ ดึงผู้ซื้อและผู้ขายเข้ามาเจรจาซื้อคอนเทนท์ในประเทศไทย เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้

“ความร่วมมือกับเจเคเอ็น ในช่วงแรก เป็นตัวแทนขายลิขสิทธิ์ละครช่อง 3 ถือเป็นการเปิดตลาดละครไทยในต่างประเทศและเป็นการขยายฐานผู้ชม  ทำให้ละครไทยโกอินเตอร์ สร้างรายได้จากการส่งออกคอนเทนท์”

วางเป้าปีแรกรายได้หลักร้อยล้าน

ทางด้าน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าความร่วมมือในการเป็นตัวแทนจำหน่ายละครช่อง 3 ในต่างประเทศ วางเป้าหมายขายลิขสิทธิ์ทั่วโลก ทั้งกลุ่มอาเซียน ที่คุ้นเคยกับละครไทย ,ตะวันออกกลาง, ลาตินอเมริกา เป็นต้น  โดยเดือนกรกฎาคมนี้ เจเคเอ็น จะไปร่วมออกบูทงานซื้อขายคอนเทนท์ในเวียดนาม โดยนำละครของช่อง 3 ไปจัดแสดงและจำหน่ายในงานนี้ หลังจากนั้นเดือนตุลาคม ร่วมงาน MIPCOM เมืองคานส์ ฝรั่งเศส  ซึ่งเป็นเวทีซื้อขายคอนเทนท์ระดับโลก โดยจะนำนักแสดงช่อง 3 ไป ร่วมเดินพรมแดงที่เมืองคานส์ด้วย

ช่อง3 เจเคเอ็น

“ที่ผ่านมาการซื้อขายคอนเทนท์ของประเทศไทยในตลาดต่างประเทศยังไม่โดดเด่นในระดับสากล ทั้งที่คอนเทนท์ละครไทย แข่งขันได้ในภูมิภาคนี้  ความร่วมมือกันในปีแรกจึงมุ่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับละครไทย จากนั้นเชื่อว่าในปีถัดไป การขายลิขสิทธิ์ละครช่อง 3  จะขยับราคาได้เพิ่มขึ้น”

สำหรับความร่วมมือขายลิขสิทธิ์ละครในต่างประเทศกับช่อง 3  วางเป้าหมายรายได้ปีแรกหลักร้อยล้านบาท!!  

Avatar photo