ไนกี้ และอาดิดาส ร่วมกลุ่มกับบริษัทเอกชนอีก 173 ราย ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้ยุติการทำสงครามกับจีน เตือนอาจเกิดผลกระทบเข้าขั้น “หายนะ” ต่อผู้บริโภค
ในจดหมายที่ทั้ง 173 บริษัทร่วมลงนามนั้น ภาคธุรกิจเหล่านี้บอกว่า การที่ผู้นำสหรัฐตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้ามาอยู่ในระดับ 25% จะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่เหมาะสมต่อกลุ่มผู้ใช้แรงงาน
นอกจากนี้ ยังเตือนว่า การจัดเก็บภาษีในระดับสูงจะกลายเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของธุรกิจบางราย
“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้สงครามการค้านี้ยุติลง”
บริษัทผู้ผลิตรองเท้ารายใหญ่ที่ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ รวมถึง คลาร์กส์ ดร.มาร์ติน และคอนเวิร์ส อ้างว่า แม้ค่าเฉลี่ยการจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อรองเท้าจะอยู่ในระดับ 11.3% แต่ในบางกรณีนั้น อาจพุ่งสูงถึง 67.5%
“การเพิ่มภาษีขึ้นไปอีก 25% จากภาษีที่กำหนดไว้แล้วนี้ หมายความว่า ครอบครัวของกลุ่มผู้ใช้แรงงานอเมริกันบางราย อาจต้องจ่ายภาษีสำหรับรองเท้าของพวกเขาเกือบ 100%”
ทั้งนี้ ในการประกาศขึ้นภาษีช่วงต้นเดือนนี้ ทรัมป์ได้บอกกับบรรดาภาคธุรกิจว่า พวกเขาควรลดค่าใช้จ่ายด้วยการโยกฐานการผลิตมาไว้ที่สหรัฐ
อย่างไรก็ดี บรรดาผู้ผลิตรองเท้า และผู้ค้าปลีก แย้งว่า แม้จะย้ายฐานการผลิตออกมาจากจีนแล้ว แต่รองเท้าเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เงินทุนอย่างมาก ต้องใช้เวลาวางแผนนานหลายปีเพื่อตัดสินใจในเรื่องการผลิต และการย้ายโรงงาน เพื่อปรับเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ
ทั้งนี้ สหรัฐ และจีน มีกำหนดที่จะหารือด้านการค้ากันอีกครั้ง นอกรอบการประชุมผู้นำจี20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้า
