ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดซื้อขายในวันนี้ (16 พ.ค.) ปรับตัวเดินสู่ขาลง แม้จะมีสัญญาณด้านบวกด้านการค้าจากสหรัฐมากขึ้นก็ตาม เหตุนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ
ดัชนีนิกเคอิ เคลื่อนไหวล่าสุดร่วงลง 181.00 จุด หรือ 0.85% มาอยู่ที่ 21,007.56 จุด ส่วนค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 109.44 เยนต่อดอลลาร์
ขาลงของตลาดญี่ปุ่น เกิดขึ้นแม้สหรัฐจะแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่อ่อนลงในเรื่องรถยนต์นำเข้า แต่นักลงทุนยังพุ่งให้ความสนใจในเรื่องสงครามการค้า และสถานะทางเศรษฐกิจของจีน กับสหรัฐ 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดในโลก
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความระมัดระวังตัวในเรื่องที่ว่า สงครามการค้าจะพัฒนาไปในทิศทางใดยังมีมากอยู่ ประกอบกับการเกิดแรงเทขายหุ้นของบริษัทที่รายงานผลประกอบการซบเซา ทำให้ตลาดเจอกับความรู้สึกด้านลบถึง 2 ทางพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวที่ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐตัดสินใจที่จะเลื่อนการขึ้นภาษีรถยนต์นำเข้าออกไปก่อน ส่งผลให้เมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้นมาอยู่ในแดนบวก ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 115.97 จุด หรือ 0.45% ที่ 25,648.02 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้นมา 16.55 จุด หรือ 0.58% ที่ 2,850.96 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,822.15 จุด เพิ่มขึ้น 87.65 จุด หรือ 1.13%
ขณะที่การคาดการณ์ว่า การจัดหาน้ำมันในตลาดโลกอาจตกอยู่ในภาวะตึงตัว เพราะสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนมิถุนายน ขยับขึ้นมา 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดซื้อขายที่ 62.02 ดอลลาร์ต่ือบาร์เรล แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับราคาทองคำในตลาดโคเม็กซ์ ที่ขยับขึ้นมา 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.12% มาอยู่ที่ 1,297.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์
