ปู ไปรยา โตแล้ว ไม่ใช้อารมณ์ เผยความคืบหน้าคดี หลังแตกหัก ดีเจต้นหอม-ดีเจมะตูม

โดย Saranya 10 พฤษภาคม 2562

จากมหากาพย์ดราม่าปมแตกหักธุรกิจอาหารเสริม Praya by LB Slim ปู ไปรยา ระหว่างนางเอกสาว ปู ไปรยา, ดีเจต้นหอม ศกุนตลา และ ดีเจมะตูม เตชินท์ ที่ก่อนหน้านี้ ต่างฝ่ายต่างออกมาแถลงข่าวเคลียร์ทุกประเด็นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกระแสจากชาวโซเชียลหลังจากที่ทุกฝ่ายออกมาชี้แจง ส่วนใหญ่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงทุกฝ่ายในหลายด้านหลายมุม

ล่าสุด นางเอกสาว ปู ไปรยา ก็ได้ออกมาเผยความคืบหน้าถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า “จริงๆ ปูกับทางทนายจะแบ่งหน้าที่กัน เหตุผลที่ให้ทนายมาแถลงข่าวในวันนั้น เนื่องจากได้ชี้แจงไปในเฟซบุ๊กแล้วว่าจะไม่พูดด้วยตนเอง ไม่อยากพาดพิงหรือกระทบถึงฝ่ายไหนเพราะรู้สึกว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่สื่อตรงนี้เพื่อพูดถึงใคร แต่ว่าปูมีหน้าที่อยู่หน้ากล้องก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนทนายก็มีหน้าที่จัดการสัญญา ดูแลรายละเอียด จัดการดีลทั้งหลาย รวมถึงจัดการเรื่องนี้ด้วย แต่ในใจปูหวังว่าเราจะหาทางออกที่จบโดยสันติวิธีได้ค่ะ”

คิดว่าจะจบด้วยดีได้ไหม เพราะท่าทีจากการสัมภาษณ์อีกฝั่งค่อนข้างไม่พอใจพอสมควร?

“ใจปูรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร คือต้องการให้ทุกฝ่ายจบอย่างแฟร์และสันติ ส่วนตัวไม่มีทัศนคติอื่น แล้วก็มีแต่ความหวังว่าจะสามารถหาทางออกที่แฟร์กับทุกฝ่ายได้”

“ปูพร้อมที่จะพูดคุยกับทนายตัวเองและทนายของเขาทุกเมื่อ ตอนนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางกฎหมายแล้วกัน มอบอำนาจให้ทนายจัดการทุกอย่าง การทำงานจะได้ไม่แทรกแซงกัน ตั้งแต่ต้นเลย คือปูเป็นคนที่อยู่หน้ากล้อง ทนายจะเป็นคนที่ปกป้องปู ในทุกสัญญาที่ทำ ปูมีข้อจำกัดที่ค่องข้างชัดเจน เพราะค่อนข้างซีเรียสกับคำพูดในสัญญา ในเคสนี้ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ปูก็จะให้เป็นหน้าที่ของทนายจัดการค่ะ”

จุดเริ่มต้นของปัญหามันเกิดจากสัญญาและความคิดที่ไม่ตรงกันของทั้งสองฝ่ายใช่ไหม?

“ส่วนตัวเป็นคนที่สตริกต์เรื่องสัญญา การทำงานของเราในสโคปของงาน มันมาด้วยคำพูดในสัญญาว่าเราต้องทำตามกติกาของสัญญา ฉะนั้นปูจึงไม่สามารถชี้แจงได้ว่าจุดเริ่มต้นของปัญหาเริ่มจากอะไร รวมถึงวันนั้นก็ได้ให้ทนายชี้แจงไปแล้ว แล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถพูดด้วย มันไม่เหมาะสมที่จะพูดเพราะว่าปูไม่สามารถที่จะชี้แจงอย่างชัดเจนได้เท่าทนาย”

ส่วนตัวมีความกังวลในเรื่องของคดีความไหม?

“เมื่อก่อนปูเป็นคนที่ใช้อารมณ์มาก แต่ในสถานการ์แบบนี้ ปูเข้าใจทุกฝ่าย สองอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้อ่าน และได้ฟังบทสัมภาษณ์ทุกฝ่าย ตอนนี้ไม่ได้มีอารมณ์อะไรเหลือนอกจากคิดว่า อยากให้หนทางที่ออกมาไม่มีผลกระทบที่เสียหายกับทุกฝ่าย เพราะว่าการที่ปูพูดออกมาแล้วทำให้ฝ่ายไหนมีการกระทบกระเทือน หรือมีการออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเขามันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตปูมีความสุข”

เห็นทนายบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบกับปูเยอะเหมือนกันกับการเป็นพรีเซนเตอร์งานอื่นๆ?

“ตอนนี้ผลกระทบกับงานไม่มี ชีวิตนี้ปูทำงานมาหลายปีมาก แล้วมันมีบางเรื่องที่ปูแคร์และรักมาก ก็คือการทำงานให้กับสังคมของปู เลยขอสงวนสิทธิ์ในวันนี้ที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ในงานวันนี้ แต่วันนี้ที่ชี้แจงกับพี่ๆ สื่อมวลชนและแฟนๆ เพราะเชื่อว่าทุกคนรอคำพูดจากปู แต่วันนี้คำพูดของปูมีอย่างเดียวก็คือ ถ้าจบด้วยสันติได้ก็อยากขอความกรุณาอยากจบแบบนั้นค่ะ”

อย่าง กุ๊บกิ๊บ ที่โดนโยงไปด้วย ได้มีโอกาสพูดคุยทำความเข้าใจไหม?

“ได้คุยกับกุ๊บกิ๊บค่ะ ตอนที่อยู่อเมริกาก็ไดเร็กต์เมสเสจกัน เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้พาดพิงถึงปู ซึ่งปูก็บอกว่าปูเชื่อ จริงๆ ปูไม่อยากให้ดึงคนอื่นมาเกี่ยวเลย จากประสบการณ์ของคนที่เป็นข่าว รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ใครรู้สึกดี เลยรู้สึกว่าวันนี้ไม่ต้องการให้คำพูดใดใดที่ออกจากปากปู ทำให้สถานการณ์หรือใครรู้สึกไม่ดีค่ะ”

เครียดกับข่าวที่เกิดขึ้นไหม?

“ไม่นะคะ พอเป็นผู้ใหญ่แล้วเราต้องรู้ว่าอารมณ์มันไม่ได้เป็นทางออกที่ดีที่สุด ปูเองก็เคยใช้อารมณ์ เลยมองว่าในเคสนี้เราต้องมองที่การกระทำก่อนและมองด้วยหลักการและเหตุผล รวมถึงมองว่าเราอยู่ในจุดนี้ได้ยังไง แล้วข้างหน้าจะเดินไปได้ยังไง นอกจากนี้ต้องมองด้วยว่าทางออกที่เราต้องการคืออะไร ทางออกของปูก็คืออยากให้ทุกฝ่ายจบด้วยดี”