มาเลเซียสั่งปิดโรงเรียนเพิ่มอีก หลังเหตุต้องสงสัยทิ้งสารพิษลงในแม่น้ำ ทำให้มีผู้ป่วย ที่รวมถึงเด็กนักเรียน และครู ต้องเข้ารับการรักษาจากการได้รับสารพิษมากกว่า 200 คนแล้ว
คำสั่งปิดที่ออกมาล่าสุดนี้ ทำให้มีโรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอนทั้ง 111 แห่ง เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 13 แห่งในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่เชื่อว่าสารพิษดังกล่าว เกิดขึ้นจากการลักลอบนำขยะพิษทิ้งลงไปในแม่น้ำที่ไหลผ่านโรงเรียนหลายแห่งในรัฐยะโฮร์
“เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน และคำแนะนำที่ได้รับจากคณะกรรมการบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐแล้ว กระทรวงศึกษาธิการจึงตัดสินใจปิดโรงเรียนทั้งหมด 111 แห่ง ในย่านปาซีร์ กูดัง ทันที” นายมาซลี มาลิค รัฐมนตรีการศึกษามาเลเซียแถลง
ก่อนหน้านั้น นายมาลิคได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า สถานการณ์กำลังวิกฤติมากขึ้น
จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากสาเหตุข้างต้น เพิ่มขึ้นเป็น 207 ราย จากจำนวน 35 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และนับถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 มี.ค.) มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 44 คน ในจำนวนนี้มีอยู่ 6 คนที่ยังอยู่ในไอซียู และ 33 รายจากผู้ป่วยทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียน
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานว่า มีผู้ป่วยมากกว่า 500 คน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลังจากสูดดมสารพิษเข้าไป ในจำนวนนี้มีมากกว่า 160 คนที่ต้องนอนโรงพยาบาล
จนถึงขณะนี้ ยังไม่แน่ชัดว่า วัตถุมีพิษที่ถูกทิ้งลงไปในแม่น้ำคือสารชนิดใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยไว้ 3 ค้นแล้ว โดย 1 คนมีกำหนดขึ้นศาลในเร็วๆ นี้ และอาจต้องโทษจำคุกนานสุด 5 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดในการละเมิดกฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
