หญิงสาวชาวอินโดนีเซีย ที่ถูกกล่าวหาว่าลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาผู้นำเกาหลีเหนือ ได้รับการปล่อยตัวแล้วในวันนี้ (11 มี.ค.) หลังอัยการมาเลเซียยกเลิกข้อกล่าวหาต่อตัวเธอ การตัดสินใจที่สร้างความตกตะลึงไปทั่ว ท่ามกลางความดีใจของญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ
ใบหน้าของ “สีติ ไอชา” เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอเดินผ่านกลุ่มนักข่าว เพื่อไปขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่นอกศาล หลังจากที่เธอโดนดำเนินคดีมาประมาณ 1 ปีครึ่งร่วมกับหญิงสาวชาวเวียดนาม กรณีลอบสังหาร “คิม จอง นัม” พี่ชายของ “คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เมื่อปี 2560
“ฉันมีความสุข ฉันไม่รู้ว่าเรื่องจะออกมาแบบนี้ ฉันไม่เคยหวังมาก่อน” ไอชา วัย 27 ปี กล่าว โดยก่อนหน้านี้เธอได้โผเข้ากอด “ดอน ธิ เฮือง” หญิงเวียดนามที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ร่วมกัน หลังจากรับทราบข่าวการปล่อยตัวดังกล่าว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจกับทุกฝ่าย จากการที่ศาลมาเลเซียเพิ่งจะมีกำหนดให้เฮืองขึ้นให้การในวันนี้ ขณะที่ตัวของเฮืองเอง ก็อยู่ในสภาพตกตะลึงจากการที่เธอไม่ได้รับการปล่อยตัวออกไปด้วย
เอเอฟพี รายงานว่า ที่ผ่านมาทางการอินโดนีเซียได้ดำเนินความพยายามทางการทูตอย่างมาก รวมถึงแรงกดดันจากผู้นำอินโดนีเซีย ที่จะให้มีการปล่อยตัวไอชา ซึ่งล่าสุดได้มีการเผยแพร่จดหมายที่รัฐมนตรียุติธรรมอินโดนีเซีย ส่งถึงอธิบดีกรมอัยการมาเลเซียขอให้ปล่อยตัวเธอ และทางฝ่ายมาเลเซียก็เห็นด้วยในเรื่องนี้
ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการลอบสังหารที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่าพวกเธอโดนสายลับเกาหลีเหนือหลอกให้ใช้สารพิษวีเอ็กซ์ ที่สหประชาติ(ยูเอ็น) กำหนดให้เป็นอาวุธทำลายล้างสูง ป้ายเข้าบริเวณใบหน้าของคิม จอง นัม เพราะคิดว่าเป็นการแสดงของรายการเรียลลิตี้
การไต่สวนคดีนี้ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 และมีกำหนดที่จะขึ้นศาลอีกครั้งในวันนี้ แต่เมื่อกระบวนการทางศาลเริ่มขึ้น มูฮัมหมัด อิสกานดาร์ อาห์หมัด ได้แถลงต่อศาลถอนข้อกล่าวหาฆาตกรรมต่อไอชา และยกฟ้องเธอ โดยไม่ได้ให้เหตุผล
ผู้พิพากษาก็ได้ตัดสินให้ยกฟ้องแบบที่ยังไม่พ้นผิด ตามที่ฝ่ายอัยการร้องขอ และมีคำสั่งให้ปล่อยตัวไอชาในทันที ซึ่งหมายความ แม้จะเป็นอิสระ แต่ไอชายังไม่ได้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ และในทางทฤษฎีเธออาจโดนจับกุมในข้อหาต้องสงสัยลอบสังหารพี่ชายผู้นำเกาหลีเหนือได้อีกครั้ง
