นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติให้ตีตกข้อกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี โดยเฉพาะบริษัท GSSG IMP. AND EXP. CORP. รัฐวิสาหกิจของจีน ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนปกปิดความจริงที่ต้องเปิดเผย
โดยคดีดังกล่าว ป.ป.ช.มีมติไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีที่นายบุญทรง ถูกศาลพิพากษาจำคุกกรณีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี ที่ศาลได้ตัดสินไปแล้ว โดยนายบุญทรง ได้ตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในการต่อสู้คดีในชั้นศาล คณะกรรมการป.ป.ช.จึงเห็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับคดีก่อน จึงให้ข้อกล่าวหาตกไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า มติดังกล่าวอาจถูกวิจารณ์ว่าเกี่ยวข้องกับกรณีที่บุตรชายนายบุญทรง ย้ายพรรคหรือไม่ เลขาธิการป.ป.ช.ยืนยันว่าการทำคดีของป.ป.ช.เป็นไปตามพยานหลักฐาน ส่วนบุตรชายใครจะอยู่พรรคไหนไม่เกี่ยวข้องกับป.ป.ช.
เมื่อถามถึงก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ป.ป.ช.มีมติไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มคือ คือ นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รวมอยู่ด้วยนั้น นายวรวิทย์ กล่าวว่าไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได