COVID-19

‘เปรู’ ตัดสิทธิการเมือง ‘อดีตประธานาธิบดี’ 10 ปี เหตุลัดคิวฉีดวัคซีนโควิด

รัฐสภาเปรู ลงมติเป็นเอกฉันท์ ตัดสิทธิทางการเมือง อดีตประธานาธิบดี “มาร์ติน บิซการ์รา” นาน 10 ปี หลังเขาโดนกล่าวหาว่า แซงคิวเพื่อรับการฉีดวัคซีนโควิด-19

นายบิซการ์รา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรู ระหว่างปี 2561-2563 ถูกตัดสินว่ามีความผิด ถึงการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ สมรู้ร่วมคิด และออกแถลงการณ์เท็จ  ในเรื่องอื้อฉาวการฉีดวัคซีน ของกลุ่มบุคคลวีไอพีในเปรู ที่รัฐมนตรี และข้าราชการจำนวนหนึ่ง ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ก่อนที่จะมีการอนุมัติฉีดวัคซีน ให้กับประชาชนในประเทศ

shutterstock 1701159784

นอกจากนายบิซการ์ราแล้ว รัฐสภาเปรู ยังมีมติตัดสิทธิทางการเมือง นายพิลาร์ มัซเซติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นาน 8 ปี และนางเอลิซาเบธ อัซเตเต้ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 1 ปี โดยอดีตรัฐมนตรีทั้ง 2 คนดังกล่าว ได้รับการฉีดวัคซีน และลาออกจากตำแหน่ง จากเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทั้งนายบิซการ์รา และอดีตรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ต่างปฏิเสธไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ตัวเอง เพื่อให้ได้รับการฉีดวัคซีนก่อนใคร พร้อมอ้างว่า เรื่องนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อดีตผู้นำเปรูเผยว่าตนเอง และภรรยา เข้ารับวัคซีนป้องกันโควิดของซิโนฟาร์มตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบระยะที่ 3 ของการวิจัยวัคซีนในประเทศ

แต่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติเปรู ซึ่งเป็นผู้ทดลองปฏิเสธว่า ไม่มีรายชื่อของอดีตผู้นำ กับภรรยา ในรายชื่อของกลุ่มอาสาสมัคร ที่เข้ารับการทดสอบแต่อย่างใด  โดยเปรูเป็นหนึ่งในประเทศที่ทดสอบวัคซีนของซิโนฟาร์ม ช่วงระหว่างเดือนกันยายนปีที่แล้ว  ถึงปลายปี 2563 ในกลุ่มอาสาสมัครราว 12,000 คน

ข้อมูลล่าสุดจาก Worldometers  แสดงให้เห็นว่า เปรูมียอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่  1,707,787 ล้านคน มากสุดเป็นอันดับ 17 ของโลก และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ 57,537 ราย

shutterstock 1734793322

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo