รัฐบาลมาเลเซียชี้ การนำ “มาเลเซีย แอร์ไลนส์” สายการบินแห่งชาติที่ประสบภาวะขาดทุนอยู่ เข้าควบรวมกิจการกับ “แอร์เอเชีย” สายการบินราคาประหยัดชั้นนำของเอเชีย เป็นหนึ่งในทางเลือก ที่จะช่วยให้สายการบินเหล่านี้อยู่ในธุรกิจต่อไปได้ ในช่วงเวลาที่วิกฤติโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการบิน
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้หลายประเทศตัดสินใจดำเนินมาตรการ “ล็อกดาวน์” หรือปิดประเทศ ส่งผลให้การเดินทางทางอากาศหยุดชะงักลงเกือบทั้งหมด และทำให้สายการบินต่างๆ ต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อความอยู่รอด
นายโมฮัมเหม็ด อัซมิน อาลี รัฐมนตรีอุตสาหกรรม และการค้าระหว่างประเทศ มาเลเซีย กล่าวว่า เร็วๆ นี้จะมีการหารือกันถึงทางเลือกต่างๆ เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมสายการบินในประเทศ ซึ่งความเป็นไปได้ถึงการควบรวมกิจการระหว่างมาเลเซีย แอร์ไลนส์ กับแอร์เอเชียนั้น เป็นเรื่องที่เริ่มพิจารณากันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนที่จะเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วย และจะต้องหารือกันต่อไป
“เราจำเป็นต้องพิจารณาดูว่า เราจะสามารถช่วยเหลือสายการบินเหล่านี้ให้ดีที่สุดได้อย่างไร ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะหาทางออกมาได้ง่ายๆ สถานการณ์ทุกอย่างย่ำแย่อย่างมาก เราจำเป็นต้องมานั่งคุยกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ”
ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียได้พยายามมองหาพันธมิตรด้านกลยุทธ์ให้กับสายการบินแห่งชาติมาระยะหนึ่งแล้ว ในช่วงเวลาที่มาเลเซีย แอร์ไลนส์ ต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อหาทางฟื้นตัวจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น 2 ครั้งติดๆ กัน คือ การหายไปอย่างลึกลับของเที่ยวบิน MH370 ระหว่างการเดินทางไปจีน และเที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกเหนือน่านฟ้าฝั่งตะวันออกของยูเครน
แหล่งข่าวหลายรายเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า แอร์ เอเชีย รวมถึง เจแปน แอร์ไลนส์ สายการบินรายใหญ่ของญี่ปุ่น เคยแสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อหุ้นในมาเลเซีย แอร์ไลนส์ แต่ในเดือนนี้ โกลเดน สกายส์ เวนเจอร์ส กลุ่มลงทุนภาคเอกชนมาเลเซีย ออกมาประกาศว่า ได้ยื่นข้อเสนอมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการบริษัทโฮลดิ้ง มาเลเซีย แอร์ไลนส์ บีเอชดี แล้ว
