ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ วานนี้ (16 ก.ย.) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากความวิตกที่ว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 85.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ลดลง 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้ และลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 91.35 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 1.6% ในรอบสัปดาห์นี้ และลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากความวิตกที่ว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของธนาคารกลางต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อสูงนั้น จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงาน
บรรดานักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 กันยายนนี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยสูงถึง 0.75% – 1% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เตือนว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะหยุดชะงักลงในไตรมาส 4 โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน และกลุ่มประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไออีเอ’ ชี้ ‘รัสเซีย’ ผลิตน้ำมันมากเกินคาด แต่ ‘มาตรการคว่ำบาตร’ เริ่มกระทบ
- ราคาน้ำมันโลกพุ่ง! คนไทยซื้อแพงขึ้น 44.7% ขณะที่ยอดใช้ 9 เดือนร่วง 5.2%
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง