ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ขยับขึ้นเล็กน้อย 99 เซนต์ ขานรับมุมมองที่ว่า มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย จะส่งผลให้การจัดหาในตลาดโลกเผชิญภาวะตึงตัว
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 87.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนคาดการณ์ว่า การจัดหาน้ำมันทั่วโลก จะเผชิญภาวะตึงตัวจากการที่สหภาพยุโรป (อียู) ใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 ธันวาคม ปีนี้
ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังของประเทศกลุ่ม G7 เห็นพ้องที่จะใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย โดยมีเป้าหมายที่จะบั่นทอนฐานะทางการคลังของรัสเซีย เพื่อไม่ให้รัสเซียนำรายได้ไปสนับสนุนการทำสงครามกับยูเครน
มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซีย จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ และจะบังคับใช้กับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า การคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย และการใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย จะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงฤดูหนาวนี้
ราคาน้ำมันดิบ ยังได้แรงหนุนจากการที่ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านกำลังเผชิญความไม่แน่นอน หลังชาติตะวันตกแสดงความไม่มั่นใจต่อความจริงใจของอิหร่านในการรื้อฟื้นข้อตกลงดังกล่าว โดยหากการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านประสบความล้มเหลว ก็จะทำให้อิหร่านไม่สามารถกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลก
ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน รวมถึง กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ลดลง 8.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มาอยู่ที่ 434.1 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2527
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคา น้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน
- ‘ยูเออี’ ลั่น ทำงานร่วม ‘โอเปกพลัส’ สร้างเสถียรภาพ ‘ตลาดน้ำมันโลก’