ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท พุ่งทะลุ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ตลาดเอเชียวันนี้ ท่ามกลางความกังวลว่า การจัดหาจากรัสเซียจะหยุดชะงักลง หลังจากที่โดยนานาชาติคว่ำบาตรอย่างหนัก จากเหตุบุกโจมตียูเครน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้นมากถึง 8 ดอลลาร์ แตะที่ 113.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ก่อนปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 111.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 7.24 ดอลลาร์ หรือ 7% แตะที่ 110.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังก่อนหน้านี้พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556
นายจัสติน สเมิร์ค นักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพคกล่าวว่า ผู้คนเริ่มให้ความสนใจต่อภาวะชะงักงันทางการค้า โดยปัญหาด้านบริการทางการเงิน และการประกันภัย เพื่อการค้า เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกจากทะเลดำ และทำให้เกิดความตื่นตระหนกด้านการจัดหาน้ำมัน
ก่อนหน้านี้ เอ็กซอนโมบิลได้ออกมาเปิดเผยในวันอังคาร (1 มี.ค.) ว่าจะยกเลิกการดำเนินงานด้านน้ำมัน และก๊าซในรัสเซีย หลังรัสเซียรุกรานยูเครน โดยการตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลให้เอ็กซอนปิดโรงงานผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ บนเกาะซาฮาลินในตะวันออกไกลของรัสเซีย
รายงานข่าวระบุด้วยว่า แม้บรรดาชาติมหาอำนาจตะวันตก ไม่ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อการส่งออกพลังงานโดยตรง แต่เทรดเดอร์สหรัฐตามศูนย์กลางต่าง ๆ ทั้งในนิวยอร์ก และอ่าวสหรัฐต่างหลีกเลี่ยงการซื้อขายน้ำมันดิบของรัสเซีย
ทั้งนี้ การส่งออกน้ำมันของรัสเซียนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ของอุปทานทั่วโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราคาน้ำมันพุ่ง 6% ‘เบรนท์’ ทะลุ 100 ดอลล์ ครั้งแรก รอบ 8 ปี
- เกาะติดสงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” รัฐ-เอกชน หวั่นน้ำมันราคาพุ่ง!
- พลังงาน เกาะติด ‘รัสเซีย – ยูเครน’ ตึงเครียด! ห่วงน้ำมันพุ่ง เตรียมมาตรการรองรับทุกด้าน
