World News

รู้จัก ‘ฟูมิโอะ คิชิดะ’ ว่าที่ นายกฯ ใหม่ ญี่ปุ่น

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น “ฟูมิโอะ คิชิดะ” ได้รับเลือกจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ สถานะที่จะทำให้เขา ก้าวขึ้นสู่การเป็น “นายกรัฐมนตรี” คนใหมของญี่ปุ่น แทนที่ “โยชิฮิเดะ ซูงะ” ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 

คิชิดะ วัย 64 ปี ได้รับความนิยมปานกลางจากประชาชนชาวญี่ปุ่น แต่ได้แรงหนุนจากสมาชิกอาวุโส ที่ทรงอิทธิพลภายในพรรค สามารถเอาชนะ “ทาโร โคโนะ” อดีตรัฐมนตรีกลาโหม และต่างประเทศวัย 58 ปี ซึ่งเป็นนักการเมืองฝีปากกล้า และเป็นที่นิยมของประชาชน ในการลงคะแนนนรอบที่ 2 หลังจากที่ในรอบแรกไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงข้างมาก

ขณะที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีก 2 คน ซึ่งเป็นสตรีทั้งคู่ คือ “ซานาเอะ ทากาอิชิ” วัย 60 ปี และ “เซโกะ โนดะ” วัย 61 ปี ได้คะแนนไม่ผ่านรอบแรกของการลงคะแนนเสียง

Kishida

ตามธรรมเนียมแล้ว เกือบจะเป็นที่แน่นอนที่สุดว่า คิชิดะ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น เนื่องจากพรรคแอลดีพี ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศนั้น คิชิดะ ซึ่งเป็นนักการเมืองสายกลาง ถือเป็นผู้มีบทบาทในการทำให้ “บารัก โอบามา” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางเยือนเมืองฮิโรชิมาเมื่อปี 2559 ซึ่งนับเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรก ที่เดินทางไปยังเมืองดังกล่าว ซึ่งถูกทิ้งระเบิดปรมาณูในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนี้ เขายังมีส่วนช่วยให้ญี่ปุ่น สามารถบรรลุข้อตกลงกับเกาหลีใต้ในปี 2558 เพื่อคลี่คลายประเด็นหญิงที่ถูกบังคับให้เป็นนางบำเรอในช่วงสงครามโลก

คิชิดะ เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพี และนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนกันยายน 2563 หลังจากที่ “ชินโซ อาเบะ” ลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ แต่ในครั้งนั้น เขาคิชิดะไม่สามารถเอาชนะ “โยชิฮิเดะ ซูงะ” ซึ่งเป็นหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และโฆษกรัฐบาลของอาเบะในเวลานั้นได้

นักวิเคราะห์มองว่า การที่เขาพลาดตำแหน่งในครั้งนั้น เพราะถูกวิจารณ์ว่า ตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 ได้ไม่ดีพอแม้ว่านั่งอยู่ในตำแหน่งประธานสภาวิจัยนโยบายของพรรค ทั้งยังขาดเสน่ห์ทางการเมือง และไม่ค่อยทำตัวเป็นข่าวมากนัก

อย่างไรก็ดี เขาเริ่มพัฒนาการมีปฏิสัมพันธ์ ด้วยการพบปะพูดคุยกับประชาชนมากขึ้น ทั้งในเวทีสาธารณะ และทางโซเชียลมีเดีย เพื่อพยายามลบภาพ ที่เคยถูกสื่อมวลชนมองว่าเป็นทางเลือกที่ไม่น่าสนใจในฐานะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา คิชิดะประกาศตัว ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีอีกครั้ง โดยชูนโยบายลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องฐานะของคนในสังคม ด้วยการเพิ่มรายได้ให้กับชนชั้นกลาง และให้คำมั่นสัญญาว่า จะสนับสนุนกลุ่มประชาชนที่มีความเปราะบางต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ เช่น พนักงานชั่วคราว และครอบครัวที่มีเด็กเล็ก

เขาบอกด้วยว่า หากได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค เขาจะจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของพรรคไม่เกิน 3 ปี ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดานักการเมืองรุ่นเก่า รวมถึง “โทชิฮิโระ นิไก” ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคแอลดีพี มาเป็นเวลานาน

หากผ่านการลงมติจากรัฐสภาญี่ปุ่น ขึ้นเป็นผู้นำประเทศคนใหม่ ในการประชุมสภาวันจันทร์นี้ (4 ต.ค.) คิชิดะ จะต้องประกาศวันเลือกตั้งทั่วไป ไม่เกินวันที่ 28 พฤศจิกายน และต้องเผชิญกับงานหนัก ในการรื้อฟื้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับชีวิตส่วนตัวนั้น คิชิดะพักอาศัยอยู่กับภรรยาและบุตรชาย 2 คนในกรุงโตเกียว โดยเขาช่วยครอบครัวทำงานบ้าน ด้วยการล้างจานและทำความสะอาดห้องน้ำในบ้านด้วยตนเอง ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นนักดื่ม และเป็นแฟนตัวยงของทีมบาสเก็ตบอลฮิโรชิมา คาร์ป

แม้จะมีชื่อว่า เป็นบุคคลที่มีแนวคิดที่เอียงไม่ทางเสรีนิยม แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า ท่าทีที่ผ่านมาของเขา บ่งชี้ว่า เขามีแนวคิดทางด้านอนุรักษ์นิยมแข็งแกร่งกว่าที่แสดงออกมา อย่างเช่น เรื่องการสมรสอย่างถูกกฎหมายของคู่รักเพศเดียวกัน ที่คิชิดะ กล่าวชัดเจนว่า ตัวเขายังไม่อยู่ในจุดที่จะยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกันได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo