ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (22 เม.ย.) ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการทรุดตัวของราคาน้ำมัน รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 19,050.33 จุด ร่วงลง 230.45 จุด หรือ 1.20% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงที่ 23,599.06 จุด ลดลง 194.49 จุด หรือ 0.82% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 2,822.98 จุด ลบ 4.03 จุด หรือ 0.14% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 2,519.76 จุด ปรับลงมา 32.16 จุด หรือ 1.26%
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นที่ 23,018.88 จุด ลดลง 631.56 จุด หรือ 2.67% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,736.56 จุด ลดลง 86.60 จุด หรือ 3.07% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,263.23 จุด ลดลง 297.50 จุด หรือ 3.48%
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการทรุดตัวของราคาน้ำมันดิบ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ทรุดตัวลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบ ที่ระดับ 10.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายนนั้น ราคาร่วงลง 8.86 ดอลลาร์ หรือ 43.4% ปิดที่ 11.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 6.24 ดอลลาร์ หรือ 24.4% ปิดที่ 19.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุให้รัฐบาลในหลายประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทรุดตัวของราคาน้ำมันดิบ บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างมาตรการเยียวยาวงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก และโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งสนับสนุนการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ร่างมาตรการดังกล่าวถูกส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และคาดว่าสภาล่างจะให้การอนุมัติภายในวันพฤหัสบดีนี้ (23 เม.ย.)
