การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีการพูดถึงกันมานานหลายปี เริ่มกลายเป็นเรื่องที่จับต้องได้มากขึ้น จากการที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนัก สถานการณ์ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คลื่นความร้อนกำลังรุนแรง แบบที่ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในกรีซ กำลังจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่าเดิมทั่วโลก ล่าสุด หลายประเทศในยุโรป กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในโปรตุเกส และสเปน มีอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นที่สุดทำสถิติไว้ที่ 50 องศาเซลเซียส เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.)
ทางการของประเทศเหล่านี้ พากันออกคำเตือนสูงสุดเกี่ยวกับอากาศที่ร้อนจัด ขอให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ และจิบน้ำบ่อยๆ หลังในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย จากอาการลมแดด
อุณหภูมิที่สูงขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากมวลอากาศร้อน ที่เคลื่อนตัวจากแอฟริกาขึ้นมาทางซีกโลกตอนเหนือ โดยนำฝุ่นจากทะเลทรายซาฮารามาด้วย
ที่ผ่านมา อุณหภูมิในช่วงเวลานี้ของปีในสเปนเคยทำสถิติสูงสุดไว้ที่ 47.3 องศาเซลเซียส ส่วนที่โปรตุเกสอยู่ที่ 47.4 องศาเซลเซียส
ส่วนที่ฟินแลนด์นั้น ปกติแล้วอุณหภูมิในช่วงเดือนสิงหาคม จะอยู่ที่ราว 19 องศาเซลเซียส แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อุณหภูมิพุ่งสูงถึงไปถึง 30 องศาเซลเซียส
เยอรมนีก็เผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดเช่นกัน ผู้ให้บริการรถไฟในประเทศ ได้แจกน้ำดื่มฟรีให้กับผู้มาใช้บริการ ในกรณีที่รถไฟเกิดความล่าช้า และมีการเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ตลอดเวลา แม้ตู้ขบวนจะไม่มีผู้โดยสารก็ตาม
ข้อมูลจากองค์กรอุตุนิยมวิทยาโลกแสดงให้เห็นว่า แม้กระทั่งวงกลมอาร์กติก ก็ยังมีอุณหภูมิพุ่งขึ้นไปถึง 30 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับที่เมือง มักเคอร์ นอร์เวย์ ซึ่งอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ที่เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม มีอุณภูมิขั้นต่ำสุดช่วงกลางคืนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 25.2 องศาเซลเซียส
ในทางกลับกัน น้ำในแม่น้ำที่เอ่อล้นตลิ่ง ก็ทำให้หลายประเทศในเอเชีย ต้องเผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ ผู้คนเกือบหมื่นรายในพื้นที่บางส่วนของเวียดนาม กัมพูชา และไทย ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
ขณะเดียวกัน เหตุเขื่อนดินย่อยแตกในลาว ก็ยังมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 100 คน และมากกว่า 120,000 คนในเมียนมากลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย
เวียดนาม
น้ำที่ล้นตลิ่งจากแม่น้ำปุย ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในเขตเชืองเหมย ชานเมืองกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศ บางพื้นที่ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร
สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติเวียดนาม (ดีเอ็มเอ) ระบุว่า มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมราว 2,700 หลังคา และประชาชนมากกว่า 5,000 คน ต้องอพยพออกจากที่พัก
ขณะสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย จากเหตุน้ำท่วมเขตเชืองเหมย ถนน สะพาน และพื้นที่เกษตรยังได้รับความเสียหายอย่างหนัก
กัมพูชา
แหล่งข่าวในรัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยว่า นับถึงวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ จากพายุฝนในฤดูมรสุม ในจังหวัดกระแจะ ไปแล้วมากกว่า 1,000 แห่ง และนาข้าวเสียหายมากกว่า 4,000 ไร่
ข้อมูลจากคณะกรรมการแม่น้ำโขง แสดงให้เห็นว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดกระแจะ อยู่ที่ 21.72 เมตร โดยระดับอันตรายอยู่ที่ 22 เมตร และระดับน้ำท่วมที่ 23 เมตร
ขณะเดียวกัน ทางการได้สั่งอพยพชาวบ้านในจังหวัดตะโบงขมุมมากกว่า 600 ครอบครัว ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงไปอยู่บนที่สูง
ไทย
เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทางการจับตาดูระดับน้ำตามแม่น้ำสายหลักๆ รวมถึงแม่น้ำโขง และเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด
เมียนมา
ฝนที่ตกหนักจากมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้่วอย่างน้อย 16 ราย และอีกกว่า 150,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย
ในภูมิภาคพะโค ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด พื้นที่เกษตรเสียหายไปราว 75,000 ไร่ โดยภาวะน้ำท่วมยังคงสร้างความกังวลอยู่ในสัปดาห์ จากการที่ร่องมรสุมยังคาดพาดผ่านเมียนมา บังกลาเทศ และทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะยังทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
อินเดีย
รัฐอัสสัม เป็นพื้นที่ล่าสุดที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ หลังจากที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการเข้าสู่ฤดูมรสุม
นับถึงวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานภาวะน้ำท่วมในเมืองโคลาฆาต ศิวสาคร จาไรเดโอ ลักขิมปุระ ภารเพตะ เทมาจี และดาร์รัง
ญี่ปุ่น
เกิดภาวะฝนตกหนักสุดในรอบหลายสิบปีช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
นอกจากนี้ ยังต้องเจอกับคลื่นความร้อนปกคลุมทั่วประเทศ จนทางการต้องออกประกาศให้เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุณหภูมิพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 41.1 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม
เกาหลีใต้
คลื่นความร้อนปกคลุมเกาหลีใต้ อุณหภูมิพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 111 ปี ที่ 40.7 องศาเซลเซียส ที่เมืองฮองชอน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
