ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) ปรับตัวลดลง จากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขาย โดยในญี่ปุ่นรอดูผลประชุมเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ส่วนอั่งเส็งดิ่งหนัก เพราะการประท้วงกลับมารุนแรงอีกครั้ง
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว เคลื่อนไหวล่าสุดมาอยู่ที่ 23,898.84 จุด ลดลง 184.67 จุด หรือ 0.77% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง ดิ่งลง 412.43 จุด หรือ 1.43% ที่ 28,383.48 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ขยับลงมา 23.62 จุด หรือ 0.76% ที่ 3,072.17 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 3,241.65 จุด ลดลง 38.44 จุด หรือ 1.17%
ตลาดฮ่องกงดิ่งลงหนักสุดในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการประท้วงที่รุนแรงขึ้นอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้ใช้แก๊สน้ำตา และสเปรย์พริกไทยเพื่อสลายการชุมนุมเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ก่อเหตุรุนแรงและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเจอปัจจัยลบ จากการที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฮ่องกงลง 1 ขั้น สู่ระดับ Aa3 จากระดับ Aa2 โดยระบุว่า ทางการฮ่องกงล่าช้า และไร้ประสิทธิภาพในการรับมือกับเหตุการณ์ประท้วง ส่งผลให้ความแข็งแกร่งของสถาบันต่างๆ และระบบธรรมาภิบาลของฮ่องกง ลดลงมากกว่าที่มูดี้ส์ได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฮ่องกงสู่ “มีเสถียรภาพ” จาก “เชิงลบ”
ทางด้านราคาน้ำมันทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าสัปดาห์ หลังจากที่ผู้ผลิตน้ำมันดิบ 2 รายใหญ่สุดของลิเบีย ระงับการผลิตชั่วคราว เนื่องจากโดนกองกำลังติดอาวุธสนับสนุนรัฐบาลลิเบีย สกัดกั้นการขนส่ง และดำเนินงาน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการจัดหาน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปค
ราคาน้ำมันดิเบรนท์ ในเอเชียล่าสุด ขยับขึ้นมา 37 เซนต์ ที่ 65.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ที่ 58.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำปรับสูงขึ้นเช่นกัน ที่ 1,561.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
