World News

‘สิงโต’ ก็ไม่รอด เจอผู้ประท้วงฮ่องกงจุดไฟเผา ต่อต้านเอชเอสบีซี

รูปปั้นสิงโตขนาดใหญ่ ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูอาคาร สำนักงานใหญ่ของธนาคารเอชเอสบีซี ในฮ่องกงมาตั้งแต่ทศวรรษ 1930 ถูกกล่องขนาดใหญ่ปกปิดเอาไว้ในวันนี้ (3 ม.ค.) เพื่อรอการซ่อมแซม หลังจากที่ถูกผู้ประท้วงฮ่องกงทำลาย และจุดไฟเผา ขณะเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ในการประท้วงครั้งแรกของปีนี้

GettyImages 1191131364

ก่อนที่จะมาอยู่ในฮ่องกงนั้น รูปปั้นสิงโตหล่อสำริดทั้ง 2 ตัว ที่มีอายุได้ 85 ปี และกลายมาเป็น 1 ในสัญลักษณ์ของฮ่องกงไปแล้วนั้น เคยอยู่ด้านหน้าสำนักงานใหญ่ของธนาคารในเซี่ยงไฮ้ จีน ในช่วงทศวรรษ 1920 และได้รับการตั้งชื่อเช่นว่า สตีเฟน กับสติท ตามชื่อผู้จัดการของธนาคารในขณะนั้น

“น่าเศร้ามาก สิงโตคู่นี้เคยยืนหยัดต้านทานการเข้าครอบครองของญี่ปุ่นมาได้ แต่กลับไม่รอดในครั้งนี้ เห็นพวกมันเป็นอย่างนี้แล้ว ทำให้ฉันอยากร้องไห้” แคโรลิน คอลลินส์ หญิงอังกฤษวัย 46 ปี ที่พำนักอยู่ในฮ่องกงมาตลอดทั้งชีวิตของเธอ กล่าว

เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่าสร้างความเสียหายให้กับรูปปั้นสิงโตมากสุด แม้ที่ผ่านมา จะมีหลายครั้งที่มีผู้ใช้รูปปั้นสิงโตคู่นี้ เพื่อการเรียกร้อง หรือการแสดงออกในด้านต่างๆ รวมถึง การถูกกลุ่มผู้สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ที่จับสิงโตทาสีเป็นสีรุ้ง ก็ตาม

GettyImages 1191131515

เอชเอสบีซีตกเป็นเป้าของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง หลังจากที่ธนาคารสั่งระงับบัญชีของกลุ่มที่ชื่อว่า สปาร์ก อัลไลแลนซ์ ที่อ้างกันว่าเป็นบัญชีสำหรับช่วยค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายให้กับผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม

ช่วงก่อนวันคริสต์มาสนั้น ตำรวจฮ่องกงได้จับกุมผู้ประท้วง 4 คน เป็นชาย 3 ราย และหญิง 1 ราย อายุระหว่าง 17-50 ปี หลังจากที่ดำเนินการสืบสวนเชิงลึกเข้าไปในกลุ่มนี้ และนำไปสู่การอายัดทรัพย์สินมูลค่าราว 70 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือมากกว่า 270 ล้านบาท และยึดเงินสด 130,000 ดอลลาร์ฮ่องกง

เหตุการณ์นี้ทำให้เอชเอสบีซีโดนโจมตีอย่างหนักจากกลุ่มผู้ประท้วง ที่กล่าวหาธนาคารว่า เกี่ยวข้องกับความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่ต้องการสกัดกั้นการระดมทุนของผู้ประท้วง เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่างๆ

บรรดาผู้ประท้วงนำเหตุการณ์ที่ธนาคารปิดบัญชีของกลุ่มสปาร์ก อัลไลแอนซ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มาโยงเข้ากับการจับกุมสมาชิก 4 คนของกลุ่มนี้ ที่ถูกตั้งข้อหาฟอกเงิน

GettyImages 1191131340

แม้เอชเอสบีซีจะออกมาปฏิเสธอย่างจริงจังถึงการเชื่อมโยงดังกล่าว แต่ก็ยังตกเป็นเป้าโจมตีของผู้ประท้วง มีทั้งที่พ่นสีตามกำแพงที่ตั้งสาขาของธนาคาร ทุ่มกระจก และทำลายสินทรัพย์ต่างๆ  ส่วนสิงโตยักษ์ทั้ง 2 ตัวก็ถูกพ่นสีต่างๆ และถูกจุดไฟเผาไหม้อยู่พักใหญ่

ทั้งนี้ มากกว่า 90% ของรายได้เอชเอสบีซีที่ประมาณ 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 6 เดือน นับถึงเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วนั้น มาจากธุรกิจธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อย และธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่งในฮ่องกง

Avatar photo