ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (19 ธ.ค.) ปรับตัวลดลง จากความกังวลในสถานการณ์เบร็กซิท และตามทิศทางของวอลล์สตรีทเมื่อคืนนี้
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 80.56 จุด หรือ 0.34% ที่ 23,853.87 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ที่ 27,769.04 จุด ลดลง 115.17 จุด หรือ 0.41% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ที่ 3,018.29 ขยับขึ้นมา 1.24 จุด หรือ 0.04% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 3,196.99 จุด ลดลง 12.55 จุด หรือ 0.39%
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) ที่ 28,239.28 จุด ลดลง 27.88 จุด หรือ 0.10% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,191.14 จุด ลดลง 1.38 จุด หรือ 0.04% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,827.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.38 จุด หรือ 0.05%
ความกังวลในเรื่องที่อังกฤษ จะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิท กลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ส่งสัญญาณว่า เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อในจุดยืนเรื่องเบร็กซิท ในช่วงเวลาที่พรรคอนุรักษ์นิยมของเขา ครองเสียงข้างมากในสภาพอยู่ และหาทางที่จะปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะขยายเวลาเส้นตายเบร็กซิทออกไปหลังสิ้นปี 2563 เพื่อให้บรรลุข้อตกลงการค้ากับอียูก่อน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า เป็นเรื่องยากที่จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียงปีเดียว ซึ่งหมายความว่า อังกฤษอาจจะออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง ในช่วงต้นปี 2564 ซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเรื่องนี้
เทรดเดอร์ยังจับตากระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ออกจากตำแหน่งด้วย แต่ปฏิกิริยาในเรื่องนี้ไม่ค่อยมากนัก เพราะเชื่อว่า วุฒิสภา ที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาอยู่ จะไม่ลงมติถอดถอนทรัมป์ ตามสภาล่างแต่อย่างใด
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ซื้อขายในตลาดเอเชีย ช่วงเช้าวันนี้ ขยับลงมาเล็กน้อย 0.08% ที่ 60.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
