ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย “เริน เจิ้งเฟย” เผย เปิดหารือกับ “กูเกิล” ถึงวิธีที่จะรับมือกับการโดนคว่ำบาตรจากสหรัฐ ห้ามขาย หรือถ่ายโอนเทคโนโลยีอเมริกันให้กับหัวเว่ย
การเปิดเจรจาดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ กูเกิล ผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กับสมาร์ทโฟนเกือบทั่วโลก ประกาศในสัปดาห์นี้ว่า ได้เริ่มตัดสัมพันธ์บางส่วนกับหัวเว่ยแล้ว ตามคำสั่งห้ามดังกล่าว
“กูเกิลเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบสูงมาก โดยเราได้หารือถึงวิธีการวางแผนที่จะรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
นายเริน ยังแสดงท่าทีไม่ให้ความสำคัญกับความพยายามของสหรัฐ ที่จะสกัดกั้นบริษัทของเขา ด้วยการระบุว่า สหรัฐประเมินความแข็งแกร่งของหัวเว่ยต่ำไป
“การเคลื่อนไหวของเหล่านักการเมืองสหรัฐในขณะนี้ ประเมินความแข็งแกร่งของเราต่ำเกินไป ระบบ 5จีของหัวเว่ย ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน ซึ่งในแง่ของเทคโนโลยี 5จีนั้น ไม่มีใครไล่ตามหัวเว่ยทันในช่วง 2 หรือ 3 ปีนี้”
ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ย้ำด้วยว่า การที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ประกาศชะลอคำสั่งขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยออกไปอีก 90 วันนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับบริษัทมากนัก เพราะบริษัทพร้อมสำหรับเรื่องนี้อยู่แล้ว
สำหรับในเรื่องการเข้าถึงชิ้นส่วนสำคัญๆ นั้น นายเริน บอกว่า ราวครึ่งหนึ่งของชิพที่ใช้ในอุปกรณ์ของบริษัทนั้นมาจากสหรัฐ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งหัวเว่ยผลิตขึ้นเอง
“เราไม่ถูกโดดเดี่ยวจากโลกอย่างแน่นอน เราสามารถผลิตชิพแบบเดียวกับของสหรัฐได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความเราจะไม่ซื้อสินค้าของพวกเขา”
ส่วนเรื่องที่ว่า หัวเว่ยอาจจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันยากลำบากเช่นนี้ไปนานเท่าใดนั้น นายเรินทิ้งท้ายว่า “คุณอาจจะต้องไปถามคำถามนี้กับทรัมป์ (โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ) ไม่ใช่ผม”