World News

สภาสหรัฐจ่อแบน ‘ติ๊กต๊อก’ วันนี้ ‘จีน’ เตือนจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวางแผนจะลงมติในร่างกฎหมาย ซึ่งจะกำหนดให้ “ไบต์แดนซ์”  ขายแพลตฟอร์ม “ติ๊กต๊อก” และอาจถูกแบน หากไม่ปฏิบัติตาม ขณะที่ “จีน” ออกโรงเตือน ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะย้อนกลับมาทำร้ายสหรัฐเอง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วันนี้ (13 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวางแผนจะลงมติในร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้ไบต์แดนซ์ ขายแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก (TikTok) ซึ่งมีชาวอเมริกันใช้งานราว 170 ล้านคน ภายในระยะเวลา 6 เดือน และไบต์แดนซ์อาจถูกแบน หากไม่ปฏิบัติตาม

ติ๊กต๊อก

การลงมติดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่มีการเสนอร่างกฎหมายนี้ และหลังจากเปิดให้สาธารณชนร่วมพิจารณา และให้ความเห็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการพลังงานและการพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นเอกฉันท์ที่ 50 ต่อ 0 เสียง และกำหนดให้นำขึ้นลงมติโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด

ด้านติ๊กต๊อกระบุว่า ร่างกฎหมายนี้มีผลลัพธ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว นั่นคือการแบนติ๊กต๊อกในสหรัฐโดยสิ้นเชิง พร้อมเสริมว่ารัฐบาลสหรัฐพยายามลิดรอนสิทธิในการแสดงออกอย่างเสรีตามรัฐธรรมนูญของชาวอเมริกัน 170 ล้านคน

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวนับเป็นความพยายามล่าสุดของสหรัฐในการปราบปรามติ๊กต๊อก ขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เคยพยายามแบนแอปพลิเคชันดังกล่าว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จในปี 2563

ความพยายามก่อนหน้านี้ในการปราบปรามติ๊กต๊อกต้องหยุดชะงักไปเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากติ๊กต๊อกเดินหน้าล็อบบี้รัฐบาลสหรัฐอย่างหนัก ให้อนุญาตใช้แอปดังกล่าวในสหรัฐ

ติ๊กต๊อก ซึ่งยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เคย และจะไม่แบ่งปันข้อมูลผู้ใช้งานชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน ระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเท่ากับเป็นการแบนติ๊กต๊อก และไม่แน่ใจว่าจีนจะอนุมัติการขายกิจการหรือไม่ หรือจะสามารถขายกิจการได้ภายใน 6 เดือนหรือไม่

ติ๊กต๊อก

ทางด้าน นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาประณามร่างกฎหมายดังกล่าว โดยระบุว่า สหรัฐไม่เคยพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าติ๊กต๊อกคุกคามความมั่นคงของชาติ แต่สหรัฐก็ไม่เคยหยุดปราบปรามติ๊กต๊อก

“พฤติกรรมการกลั่นแกล้งดังกล่าวเพราะไม่สามารถเอาชนะในการแข่งขันที่เป็นธรรมได้ ถือเป็นการขัดขวางการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทต่าง ๆ ทั้งยังบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อสภาพแวดล้อมการลงทุน ตลอดจนเป็นอันตรายต่อระเบียบเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ”

“ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้จะย้อนกลับมาทำร้ายสหรัฐเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นายหวังกล่าวทิ้งท้าย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo