World News

ชี้ ‘7 ยักษ์เทคโนโลยีสหรัฐ’ มี ‘มาร์เก็ตแคป’ สูงสุดใน ‘จี20’

ผลการศึกษาล่าสุด ระบุ 7 ยักษ์เทคโนโลยีสหรัฐ มี “มาร์เก็ตแคป” มากกว่าบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดใน “กลุ่มจี20” ชี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หนุนให้หุ้นกลุ่มอื่นในตลาดเติบโตมากขึ้น

ดอยซ์แบงก์ ธนาคารชั้นนำของเยอรมนี เปิดเผยรายงานวิจัยฉบับล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่า กำไร และมูลค่าทางตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ 7 แห่งของสหรัฐ หรือที่เรียกรวมกันว่า “Magnificent Seven” ได้แก่ ไมโครซอฟท์ แอปเปิ้ล อัลฟาเบท อเมซอน เทสลา เมตา แพลตฟอร์มส์ และเอ็นวิเดียนั้น อยู่ในระดับสูงกว่าบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในเกือบทุกประเทศของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ (จี20)

7 ยักษ์เทคโนโลยีสหรัฐ

รายงานระบุด้วยว่า หากนำมาร์เก็ตแคปของ 7 ยักษ์เทคโนโลยีสหรัฐ มารวมกันนั้น อาจจะทำให้บริษัทเหล่านี้กลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีมาร์เก็ตแคปสูงกว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นถึง 2 เท่า โดยขณะนี้มาร์เก็ตแคปของตลาดหุ้นญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก

ขณะเดียวกัน เอเวลิน พาร์ทเนอร์ส บริษัทให้บริการทางการเงิน จากสหราชอาณาจักร เปิดเผยรายงานวิจัย ที่ระบุว่า นอกเหนือจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ทั้ง 7 แห่งของสหรัฐแล้ว หุ้นกลุ่มอื่น ๆ ในตลาดสหรัฐ ยังมีโอกาสเติบโตในปีนี้เช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

นายแดเนียล คาซาลี นักวิเคราะห์เอเวลิน พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า แม้อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ยอดขาย และรายได้ของบริษัทสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทเหล่านี้สามารถรับมือกับภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง และสามารถควบคุมต้นทุนได้ ขณะที่ภาคครัวเรือนของสหรัฐก็มีเงินออมในระดับสูงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ทั้งตลาดแรงงานของสหรัฐยังมีความแข็งแกร่ง โดยมีการจ้างงานเกือบ 3 ล้านตำแหน่งในช่วงปี 2566

“นอกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว ภาคธุรกิจของสหรัฐยังได้ปัจจัยหนุนจากกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ มีกลยุทธ์ในการปรับขึ้นราคาสินค้าและการบริการอย่างชาญฉลาด”

ที่ผ่านมานั้น นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทในกลุ่ม Magnificent Seven อย่างใกล้ชิด เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทกลุ่มนี้เป็นแรงขับเคลื่อนตลาด

7 ยักษ์เทคโนโลยีสหรัฐ

อัลฟาเบท บริษัทแม่ของ “กูเกิล” เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 1.64 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.59 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากธุรกิจกูเกิลคลาวด์ (Google Cloud) อยู่ที่ 9,190 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 8,940 ล้านดอลลาร์

ส่วน เมตา แพลตฟอร์มส์ บริษัทแม่ของ “เฟซบุ๊ก” และ “อินสตาแกรม” มีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 5.33 ดอลลาร์ ทั้งบริษัทยังคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 1/2567 จะอยู่ในช่วง 34,500-37,000 ล้านดอลลาร์

ทางด้านแอปเปิ้ล รายงานกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 2.18 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.10 ดอลลาร์ โดยนายลูกา เมสทรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (ซีเอฟโอ) แอปเปิ้ล คาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 2/2567 จะอยู่ที่ระดับ 51,330  ล้านดอลลาร์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo