ชาบัด เฮาส์ สถานที่ชุมนุมพบปะของชาวยิวที่เดินทางท่องเที่ยวในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ไกลจากถนนข้าวสารที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้ต้อนรับชาวอิสราเอลที่มาเยือนประเทศไทยมายาวนานเกือบ 3 ทศวรรษ
แต่หลังจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส ปะทุเมื่อ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ชาบัด เฮาส์ ที่เคยเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการต้อนรับขับสู้กลับเปลี่ยนแปลงไป
แรบไบ เนชีเมีย วิลเฮล์ม ผู้อำนวยการ ชาบัด เฮาส์ กล่าวว่า การโจมตีของกลุ่มฮามาสทำให้ชาวอิสราเอลจำนวนมากเดินทางมาเยือน และขอความช่วยเหลือกันมากขึ้น
“ทันทีที่ทุกคนได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอิสราเอล ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อหาทางกลับบ้าน เพราะส่วนใหญ่พวกเขาเป็นทหาร ที่เพิ่งปลดประจำการจากกองทัพ พวกเขาต้องการกลับบ้าน และปกป้องพี่น้องร่วมชาติ”
แรบไบ เนชีเมีย วิลเฮล์ม กล่าวกับวีโอเอว่า เป็นเรื่องยากที่จะหาเที่ยวบินกลับไป แต่ชาบัด เฮาส์ ก็สามารถช่วยผู้คนจำนวนมากให้กลับไปได้ โดยในช่วงสัปดาห์นี้ ได้ช่วยส่งคนกลับไปอิสราเอลกว่าสิบคน และเชื่อว่ามีคนอิสราเอลราว 2,000-3,000 คนเดินทางกลับไปบ้านเกิดแล้ว
ทางด้าน เมนี มาคาช ผู้จัดการชาบัด เฮาส์ ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลมา 6 ปี กล่าวว่า เขาต้องการกลับไปอิสราเอล แต่ทำไม่ได้
“ผมหย่าร้าง และมีลูกสาวอยู่ 2 คน ลูกสาวอยู่กับผม และเรียนหนังสือที่นี่ ถ้าตอนนี้ผมต้องกลับไป ผมรู้ว่า มันไม่แน่นอน 100% ว่าจะได้กลับมาอีก”
เที่ยวบินสู่อิสราเอล
แม้ว่าสายการบินนานาชาติจะยกเลิกเที่ยวบินไปยังอิสราเอล แต่สายการบินอิสราเอล “แอล อัล” ยังคงเปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปกรุงเทลอาวีฟ เพื่อช่วยชาวอิสราเอลให้เดินทางกลับบ้าน
เมื่อวันศุกร์ (13 ต.ค.) ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย โพสต์ภาพผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เอ็กซ์ จากสนามบินสุวรรณภูมิ เผยให้เห็นชาวอิสราเอลหลายร้อยคนต่อคิวเพื่อขึ้นเครื่องกลับบ้าน
ออริ ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยนามสกุลด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เป็นชาวอิสราเอล และอดีตนักศึกษาด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งมาพักผ่อนที่เวียดนามเมื่อสัปดาห์ก่อน กล่าวว่า “เราต่างร้องไห้ คุณไม่มีทางสนุกได้เมื่อรู้ว่ามีสงครามที่บ้านเกิด แม้ว่าเราจะอยู่กันที่นี่ (กรุงเทพฯ) ก็ตาม พอได้ยินข่าว ผมก็วิ่งกลับไปที่โรงแรมและพยายามติดต่อครอบครัว … มันเครียดมาก ๆ เราร้องไห้กันหมด”
สำหรับออริ ซึ่งทำงานในอุตสาหกรรมยา และเวชภัณฑ์ในอิสราเอล ก่อนจะเดินทางมาท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เมื่อได้กลับไปบ้าน เขารู้ได้ว่าจะมีภารกิจที่แตกต่างรออยู่ข้างหน้า “ทุกคนได้รับโทรศัพท์ ผมถูกเรียกตัวกลับบ้าน ผมจะต้องเข้าร่วมในสงคราม แต่จะต้องทำอะไรบ้างนั้น ผมไม่รู้เลย”
พลเมืองชาวอิสราเอลทั้งชายและหญิงทุกคนจะต้องเป็นทหารเมื่ออายุถึง 18 ปี ชายอิสราเอลจะต้องรับใช้ชาติเป็นเวลา 32 เดือน ส่วนผู้หญิงอิสราเอลมีกำหนดเวลา 2 ปี
อาวี วัย 27 ปี ชาวอิสราเอล ที่ปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อนามสกุลเต็ม เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ในอิสราเอล ได้เดินทางมาท่องเที่ยวต่างประเทศ และใช้เวลา 1 เดือนในเนปาล เธอเล่าให้ฟังว่า เธอไม่ได้รับโทรศัพท์เรียกตัวกลับอิสราเอล แต่ก็ยืนยันที่จะกลับไปให้ได้
“เมื่อฉันเข้าใจว่าสิ่งนี้ ไม่เหมือนกับที่เคยเจอมาก่อน เราต่างเข้าใจดี เราต้องเดินทางกลับบ้านทันที”
“คุณไม่จำเป็นต้องกลับบ้านตามกฎหมาย แต่ทุกคนก็กลับหมด คุณต้องไม่เงียบเฉย เพื่อนคุณทุกคนลุกขึ้นสู้หมด ทุกคนกลับบ้าน ฉันไม่มีหมายเรียกที่ให้กลับบ้าน แต่ฉันทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ในชุมชน และโรงพยาบาลที่นั่น ดังนั้นฉันรู้ว่า ฉันเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง ครอบครัวของฉัน พี่ชายของฉัน พี่เขยของฉันทั้งหมด ลูกพี่ลูกน้องของฉันถูกเรียกตัวไปหมด ดังนั้นมีเด็กมีมากมายที่ต้องการการดูแล ทุกคนต้องการความช่วยเหลือ ทุกที่เลย”
นอกจากนี้ กลุ่มในสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง เฟซบุ๊ก ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับชาวอิสราเอลในการหาทางกลับบ้านเช่นกัน ซึ่งโพสต์ส่วนใหญ่มีการหาทางซื้อตั๋วกลับบ้าน รวมทั้งมีการพูดถึง Order 8 หรือหมายเรียกตัวกลับไปรับใช้ชาติในยามสงคราม
แต่ใช่ว่าชาวอิสราเอลทุกคนจะได้กลับบ้านกันง่าย ๆ
เอลัด ที่ไม่ประสงค์เผยนามสกุล เป็นนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเกาะพงัน และอยู่ในประเทศไทย 53 วันแล้ว กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีเที่ยวบินปกติไปอิสราเอลในเร็ว ๆ นี้ และวีซ่าที่ต่ออายุในไทยกำลังจะหมดแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไร อาจจะต้องเดินทางไปเวียดนามก่อนในระยะนี้”
ข้อมูลจากไทย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวอิสราเอลขยายเวลาพำนักในไทยได้อีก 30 วันหากสถานการณ์ความขัดแย้งยืดเยื้อ
ภายใต้ภาวะสงครามในอิสราเอล ชาวอิสราเอลบางส่วนอาจต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับรัสเซีย ที่ส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ชาวรัสเซียนับพันเดินทางมายังประเทศไทยที่สงบสุขกว่า และหลายคนเลี่ยงหมายเรียกทหารของรัฐบาลมอสโก รวมทั้งผลกระทบจากมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตกที่บังคับใช้กับรัสเซียในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไทยถือเป็นประเทศยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอิสราเอล โดยมีนักท่องเที่ยวอิสราเอลมาท่องเที่ยวในไทยมากกว่า 159,000 คน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้
ที่มา: วีโอเอ ภาคภาษาไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รัฐบาลตั้งเป้าพาคนไทยในอิสราเอลกลับบ้านทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้!
- ‘รมช.ตปท.’ ยันรัฐบาลพร้อมรับผิดชอบค่าตั๋วเครื่องบินแรงงานไทยทุกคน!
- ‘อิสราเอล’ คาด ‘ฮามาส’ คุมตัวประกันไว้ในอุโมงค์ใต้ดิน
